LET กางแผนธุรกิจปี 66 “The Future of LET” ลุยตลาด B2B-B2C

LET กางแผนธุรกิจปี 66 ผ่านแนวคิด “The Future of LET” ผู้นำเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย พร้อมลุยตลาด B2B และ B2C ตั้งเป้าสร้างรายได้ประจำ ภายใน 3 ปี

นายยุทธพร จิตตเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ล็อกซเล่ย์ อีโวลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (LET) เผยว่า LET เป็นบริษัทลูกถือหุ้นโดย บมจ.ล็อกซเล่ย์ 80% ดำเนินธุรกิจด้านบริการเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยระดับเมือง มีฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นองค์กรภาครัฐ ถึงแม้ที่ผ่านมา LET จะมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดทุกปี แต่รายได้เกือบทั้งหมดมาจากงานประมูลภาครัฐ (B2G) ซึ่งมีความผันผวนสูงทั้งในแง่โอกาสและรายได้ ดังนั้น LET จึงมองหาโอกาสทางการตลาดในช่องทางอื่นเพิ่มเติม คือกลุ่มลูกค้าองค์กรเอกชน และลูกค้าครัวเรือนทั่วไป LET จึงปรับแผนการดำเนินธุรกิจ พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ภายใต้กลยุทธ์ “The Future of LET” โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับสมดุลสัดส่วนที่มาของรายได้จากเดิมที่มาจาก B2G มากกว่า 90% ให้กลายเป็นสัดส่วนรายได้จาก B2G เดิม 60% และเพิ่มสัดส่วนรายได้ใหม่จาก B2B และ B2C ให้ได้ 40% ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า

ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากกลยุทธ์  “The Future of LET” ได้แก่  1. เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยสำหรับที่พักอาศัย เป็นบริการระบบรักษาความปลอดภัยภายใต้คอนเซ็ปต์ “Security & Digital Lifestyle” ระบบความปลอดภัยสำหรับที่พักอาศัยแนวราบและแนวดิ่ง เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หมู่บ้านและคอนโดมิเนียม เป็นการแจ้งเตือนผู้บุกรุกหรือดูไลฟ์วิดีโอผ่านสมาร์ทโฟน เพราะ “LET Care” สามารถตรวจจับความผิดปกติ ทั้งความร้อน อุณหภูมิ กลุ่มควันภายในที่พัก รวมถึงสามารถควบคุมแสงสว่าง เปิด-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในพื้นที่อยู่อาศัย พร้อมส่งสัญญาณฉุกเฉินแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากเกิดเหตุ

2. เทคโนโลยีป้องกันการโจรกรรมข้อมูลทางไซเบอร์ ทาง LET จบมือกับ คลาวด์เซค เอเซีย ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันภัยไซเบอร์ ร่วมกันให้บริการโซลูชันส์เพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูลทางไซเบอร์แก่ กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) อาทิ สถานพยาบาลขนาดเล็ก (คลินิคศูนย์บริการรถยนต์ โรงงานในนิคมอุตสาหกรรม โรงเรียนเอกชน โรงเรียนนานาชาติ โดยให้บริการเฝ้าระวังตลอด24 ชั่วโมง ผ่านห้อง CCC เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการ

3. เทคโนโลยีดูแลและช่วยเหลือสังคมผู้สูงอายุ

เป็นบริการที่รองรับการก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยของประเทศไทย โดยบริการ Residence Elderly Ward เป็นการบูรณาการระบบการเฝ้าระวังเชื่อมกับ 3 อุปกรณ์หลักที่ LET วิจัยและพัฒนาร่วมกับ ซีที เอเซีย โรโบติกส์ นานกว่า 2 ปี ได้แก่ 1. “น้องปกป้อง” หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุที่สื่อสารได้แบบ 2 ทาง 2.Technology For Aging Society หรือสร้อยคอตรวจจับความเคลื่อนไหว และ 3.สมาร์ทวอทช์ โดยอุปกรณ์ทั้งหมดเชื่อมต่อเข้ากับ “LET Care” เพื่อเสริมการดูแลพร้อมแจ้งเตือนและช่วยเหลือผู้สูงอายุกรณีฉุกเฉิน

4. เทคโนโลยีไร้มนุษย์ควบคุม เป็นบริการที่ LET นำหุ่นยนต์ 2 ประเภทมาให้บริการ คือ 1. "น้องปกป้องเป็นหุ่นยนต์ตรวจการณ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยเสริมงานด้านรักษาความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่สม่ำเสมอ โดยมีกล้องตรวจจับที่ถ่ายวิดีโอส่งไปยังเจ้าหน้าที่ และสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ผ่านหุ่นยนต์เพื่อขอความช่วยเหลือ 2. "น้องจริงใจขยันส่ง เป็นหุ่นยนต์ส่งเอกสารหรือสิ่งของภายในอาคารได้ตามที่กำหนด ออกแบบมาให้ใช้งานภายในอาคาร หรือสำนักงานที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่

ในปี 2566 เราจะเริ่มทำตลาดด้วยการสร้างการรับรู้ผ่านโซเชียลมีเดีย และร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และระบบเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยที่ LET ให้บริการ ขณะเดียวกันเรายังร่วมมือกับพันธมิตรออกบูธในงานจัดแสดงเทคโนโลยีด้านรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำสร้างความน่าเชื่อถือและแต้มต่อทางธุรกิจ พร้อมเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันในปีหน้า ซึ่ง LET ตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้ากลุ่ม B2B และ B2C รวมกันไม่น้อยกว่า 300 ราย ภายในสิ้นปีหน้า

#LET #B2B #B2C #ล็อกซเล่ย์ #ข่าวไอที #ข่าวประจำวัน #StockReview