ASPS มองตลาดหุ้นไทย ไตรมาสสองแกว่งผันผวนแนะหุ้นสภาพคล่องสูง

ASPS ประเมินภาพรวมการลงทุน ตลาดหุ้นไทยไตรมาสสอง แกว่งผันผวน แนะลงทุนหุ้นสภาพคล่องสูงรอ Fund Flow หลังเลือกตั้งปัจจัยบวกหนุน

คุณเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วง 2566 ยังผันผวน เพราะติดอยู่กับความกังวลดอกเบี้ยฯขาขึ้น ปัญหาระบบสถาบันการเงินและความเสี่ยงเศรษฐกิจเข้าสู่ Recession โดยวงจรความกังวลมีจุดเริ่มต้นมาจากการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆเพื่อสกัดเงิน ซึ่ง ในช่วง 2566 ที่ผ่านมาเริ่มเห็นผลกระทบมายังภาคสถาบันการเงินสหรัฐฯ และยุโรป เริ่มประสบปัญหาสภาพคล่องก่อนที่ FED และ SNB จะเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ในมุมฝ่ายวิจัยฯประเมินปัญหา ข้างต้นมีแนวโน้มยังมีความเสี่ยงขยายวงกว้างไปยังสถาบันการเงินต่างๆหากต้นเหตุที่แท้จริงยังไม่ได้รับการแก้ไข ขณะที่อีกด้านหนึ่งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯและยุโรปที่เข้าสู่ภาวะ Recession มากขึ้นซึ่งจะเป็นแรง กดดันต่อตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นไทยคงหลีกเลี่ยงผลกระทบได้ยาก

สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (ASPS) ในกลุ่มบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชนหรือ ASPS ประเมินภาพรวมการลงทุนของตลาดหุ้นไทยในช่วง 2066 แกว่งผันผวน จากผลกระทบของการปรับขึ้น ดอกเบี้ยฯที่เร็วและแรงของ FED และ ECB ที่ทำให้ความเสี่ยงต่อสถาบันการเงินสหรัฐฯ ยุโรป ไม่หมดไป อีกด้านหนึ่ง เป็นการเพิ่มโอกาสที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรปเข้าสู่ Recession แต่อย่างไรก็ตามภาพระยะสั้นบนความคาดหวัง ต่อการสิ้นสุดวงจรขาขึ้นดอกเบี้ยฯของ FED ขณะที่การเติบโตเศรษฐกิจภายในประเทศและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ เติบโตและความคาดหวังเชิงบวกต่อนโยบายใหม่ๆจากการเลือกตั้งเป็นปัจจัยหนุน SET Index ฟื้นกลับได้ในช่วง ระยะเวลาหนึ่ง โดยมองเป้าSET Index ปีนี้ที่ 1610/1670 จุดอย่างไรก็ตามปัจจัยในประเทศที่มีน้ำหนักในทางบวกจากเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มเติบโตจากภาคการท่องเที่ยว + การลงทุน และการบริโภคครัวเรือน โดยอ้างอิงคาดการณ์ธปทคาด GDP Growth 66F ขยายตัว +3.6% ดีกว่า GDP โลกที่ Consensus คาดโตเฉลี่ย 2.3% อีกทั้งยังมีแรงหนุนจากกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2566 ที่ฝ่ายวิจัยฯคาด อยู่ที่ 1.12 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นEPS66F ที่ระดับ 91.8 บาท/หุ้น เติบโต 12.6%yoy เทียบกับหลายๆ ประเทศ เติบโตไม่ถึง 2 หลักฯ เป็นแม่เหล็กดึงดูด Fund Flow กลับมาหาเรา รวมถึงความคาดหวังเชิงบวกต่อนโยบายใหม่ๆ จากการเลือกตั้ง หนุน SET Index ฟื้นกลับได้เป็นบางช่วงเวลาโดยกำหนดเป้าหมายดัชนีที่ 1610/1670 จุด  กลยุทธ์การลงทุนแนะนำทยอยสะสมหุ้นเมื่อ SET Index อยู่ในระดับต่ำกว่า 1610 จุด โดยเลือกหุ้นสภาพคล่องสูง(เป็นเป้าหมายของ Fund Flow) บวกกับกำาไรมีแนวโน้มผ่านจุดเลวร้าย (Bottom Out) อย่าง ADVANC, AMATA, BGRIM, SNNP, JMT, STEC

#AsiaPLUS #ตลาดหุ้น #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าวหุ้น #StockReview #วิจัย