CPF คลอด CPFGS เตรียมดันเข้าตลาดหลักทรัพย์

บริษัท บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CPFGS เป็นบริษัทในกลุ่มของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566  ได้ยื่นคําขออนุญาตและยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน เพื่อการเสนอ ขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (“สํานักงาน ก.ล.ต.)

สุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า CPFGS เป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกที่ให้บริการทางด้านอาหารแบบครบวงจร ด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์แปรรูปของ CPF จำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อกุ้ง เนื้อปลา เป็นต้น และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป รวมถึงกิจการร้านอาหารอย่างเช่น ไก่ย่างห้าดาว เชสเตอร์ กิลล์ และศูนย์อาหาร Food World ต่าง ๆ รวมถึงการให้บริการจัดเลี้ยงและร้านอาหารอื่น ๆ ซึ่งมีจำนวน 5000 กว่าแห่งทั่วประเทศไทย  และธุรกิจขนมสัตว์เลี้ยงภายใต้ตราสินค้า Jerhigh และ Jinny ได้วางจัดจำหน่ายตาม 7-11 แมคโคร โลตัส บิ๊กซี ท๊อป ทั่วประเทศ

CPFGS ได้ดำเนินการยื่นคำขออนุญาตและยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว ได้ยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยจะเสนอขายหุ้นไม่เกิน 500,010,000หุ้น ซึ่งประกอบด้วย 1.หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทไม่เกิน 66,700,000 หุ้น 2. หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย CPF ไม่เกิน 316,655,000 หุ้น  3.หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด (CPM) ไม่เกิน  116,655,000 หุ้น รวมทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท (รวมเรียกว่า “การเสนอขายหุ้น IPO”)

จำนวนหุ้นที่เสนอขายขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัท และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ (Initial Purchaser) (ถ้ามี)

การนำ CPFGS เข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ บริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และ/หรือชำระคืนเงินกู้ยืม รวมถึงการลงทุนที่สอดคล้องกับกลยุทธ์และ/หรือธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการเข้าซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการของบริษัทฯ และบริษัทย่อย

โดยภายหลังการ IPO นั้น CPFGS ยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ CPF ร้อมได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นปีละ 2 ครั้ง โดยเงินปันผลที่จ่ายรวมทั้งสิ้นในแต่ละปีจะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิประจำปี

สำหรับรายได้งวดสิ้นปี 2565 ที่ผ่านมา CPFGS มีรายได้รวมจากการขายสินค้าจำนวน 170,830 ล้านบาท และมีกำไรสำหรับปีจำนวน 6,173 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรร้อยละ 3.6  โดยระหว่างปี 2563 และ 2565 รายได้และกำไรของ CPFGS มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 18.4% และ 120.3% ตามลำดับ

ทั้งนี้การเสนอขายหุ้น IPO ดังกล่าวจะกระทําได้ต่อเมื่อ CPFGS ได้รับอนุญาตจากสํานักงาน ก.ล.ต. โดย CPF จะแจ้งรายละเอียด เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้น IPO ให้ทราบต่อไป