SCI ผนึก EDL-Gen ผู้นำผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดรายใหญ่
ร่วมศึกษาซื้อขายคาร์บอนเครดิตจากเขื่อนไฟฟ้าในสปป.ลาว
SCI เซ็นลงนามบันทึกข้อตกลงกับบริษัท
ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) หรือ EDL-Gen ผู้นำการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานสะอาดรายใหญ่ของ
สปป.ลาว เพื่อศึกษาโครงการซื้อขายคาร์บอนเครดิต
และการซื้อขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียนของโครงการโรงไฟฟ้า EDL-Gen ฟากซีอีโอ "เกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล"
ระบุความร่วมมือในครั้งนี้เป็นรุกขยายในธุรกิจซื้อขายคาร์บอนเครดิต
เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ คาดเริ่มดำเนินโครงการได้ภายในปี 2567
พร้อมเตรียมแผนเจรจาซื้อขายคาร์บอนเครดิต และใบรับรองพลังงานหมุนเวียนในไทยเพิ่มเติม
หวังผลักดันอนาคตเติบโตอย่างยั่งยืน
นายเกรียงไกร
เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด
(มหาชน)หรือ SCI เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ
บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) หรือ EDL-Gen ผู้นำการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานสะอาดรายใหญ่ของ
สปป.ลาว
ร่วมมือกันเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการซื้อขายคาร์บอนเครดิตและการซื้อขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียน
(Renewable Energy Certificate: REC) ของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน
สปป.ลาวของ EDL-Gen โดยจะเริ่มทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในช่วงไตรมาสที่
2/2566 และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินโครงการได้ภายในปี 2567 ขณะเดียวกันบริษัทฯ
ยังมีแผนจะทำการซื้อขายคาร์บอนเครดิตและซื้อขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียนในไทยเพิ่มเติมในอนาคตเช่นกัน
"ความร่วมมือในครั้งนี้จะสนับสนุนให้บริษัทฯ
รุกขยายเข้าไปในธุรกิจซื้อขายคาร์บอนเครดิตและการซื้อขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียนได้เป็นอย่างดี
เนื่องจากมีพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่ง
ซึ่งบริษัทฯมั่นใจว่าธุรกิจดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการสร้างรายได้เพิ่มจากปัจจุบัน
อีกทั้งช่วยผลักดันอนาคตให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนและสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างมั่นคงในระยะยาว"นายเกรียงไกรกล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี
2566 บริษัทฯ ประเมินว่ายังมีทิศทางการเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จาก
งานในมือ (Backlog) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปีนี้ รวมทั้งยังมีงานสายส่งเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ยื่นประมูลแล้ว
และอยู่ระหว่างรอประมูลอีกมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท ในส่วนของโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนที่บริษัทฯได้ชนะการประมูลมาแล้วทั้งหมด
4 โครงการขนาดกำลังการผลิตรวม 11 เมกะวัตต์ ได้เซ็น PPA กับทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเรียบร้อยแล้ว
และคาดว่าจะเริ่มเดินหน้าก่อสร้างภายในปีนี้ตามแผน