แต่ละปีผู้ประกอบธุรกิจจะได้รับการจัดอันดับเครดิต
หรืออันดับความน่าเชื่อถือ เพื่อเป็นดัชนีชี้วัดและเป็นการประเมินความน่าเชื่อถือขององค์กรในฐานะผู้ออกตราสารหนี้หรือหุ้นกู้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ประกอบธุรกิจด้านการเงิน
โดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agencies) ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(กลต.) ในประเทศไทยมี 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งอันดับจะสะท้อนถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสารหนี้อันดับความน่าเชื่อถือ
แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มน่าลงทุน
หรือ Investment Grade (AAA ถึง BBB-)
มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำถึงปานกลาง และ 2) กลุ่มเก็งกำไร หรือ Non-Investment Grade (BB+ ลงไปจนถึง D) มีความเสี่ยงในการผิดชำระสูงกว่ากลุ่มแรก
การจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มีอยู่ 2 แบบด้วยกัน
คือ
1. ระดับองค์กร (Company Rating) จะประเมินจากโครงสร้างองค์กร
ข้อมูลทางการเงิน แผนการธุรกิจของบริษัท และแนวโน้มของอุตสาหกรรมนั้นในอนาคต
เพื่อให้เห็นสถานะทางการเงินและศักยภาพในการสร้างรายได้โดยรวม
2. ตัวตราสารหนี้ (Issue Rating)
สะท้อนความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยและคืนเงินต้นภายใต้คุณลักษณะเฉพาะของตราสารหนี้แต่ละรุ่น
โดยจะพิจารณาจากเงื่อนไขของตราสารหนี้นั้น ๆ
ลองมาส่องอันดับเครดิตของ 3 ค่ายยักษ์ใหญ่สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
ว่ามีอันดับเครดิต หรือ Credit rating เป็นอย่างไรบ้าง
อันดับเครดิต ส่งผลดีต่อต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบการ
ยังไง?
การได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ดีกว่า ถือเป็นเรื่องสำคัญในการดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจให้เงินกู้ที่ต้องนำเงินจากแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำกว่า
เพื่อนำเงินมาปล่อยกู้ต่อในอัตราดอกเบี้ยที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เท่ากับว่ายิ่งต้นทุนทางการเงินต่ำเท่าไหร่
ยิ่งส่งผลดีต่อกำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นเท่านั้น
ทำให้อันดับเครดิตที่ดีกว่าจะส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัทในการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้
เนื่องจากอันดับเครดิตที่สูงกว่า มีแนวโน้มที่จะออกตราสารหนี้ที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า
เป็นผลมาจากผู้ได้รับอันดับเครดิตที่สูงกว่าสะท้อนถึงการมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าในการผิดนัดชำระหนี้
ซึ่งทำให้บริษัทที่ได้รับอันดับเครดิตที่สูงกว่ามีความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจโดยหากเทียบกับผู้ประกอบการสินเชื่อทะเบียนรถยักษ์ใหญ่
จะเห็นได้ว่าทุกบริษัทได้รับการจัดอันดับอยู่ในกลุ่มน่าลงทุน
โดยเงินติดล้อได้รับอันดับความน่าเชื่อสูงสุดที่ A คงที่
ส่วนอีกสองผู้ประกอบการที่อันดับ BBB+
อันดับเครดิต
ส่งผลดีต่อการลงทุนของสถาบันการเงิน ยังไง?
อันดับความน่าเชื่อถือถือเป็นข้อมูลหนึ่งที่สำคัญในการพิจารณาตราสารหนี้ภาคเอกชน
หรือหุ้นกู้เนื่องจากอันดับเรทติ้งเป็นตัวสะท้อนว่าผู้ออกตราสาร
ซึ่งมีสถานะเป็นลูกหนี้จะมีความสามารถในการชำระหนี้คืนมากน้อยแค่ไหน โดยการเลือกลงทุนในตราสารหนี้ หรือ หุ้นกู้
ก็ต้องพิจารณาทั้งธนาคารที่เป็นผู้ดูแล
ความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ต้องการออกหุ้นกู้
รวมไปถึงระดับความน่าเชื่อถือของตัวหุ้นกู้เอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงเงินต้นสูญหายในอนาคต
ซึ่งนักลงทุนระดับสถาบันส่วนใหญ่สนใจและลงทุนในตราสารหนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอันดับความน่าเชื่อถือ Investment
Grade (AAA ถึง BBB-)
เนื่องจากสามารถสร้างผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้ดีเมื่อเทียบกับช่องทางการลงทุนอื่นๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปัจจุบันที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับสภาวะทางเศรษฐกิจมีความเปราะบาง
ถึงตรงนี้ผู้อ่านนักลงทุนคงจะเห็นภาพกันมากขึ้นแล้วว่าอันดับเครดิตไม่ได้มีเอาไว้แค่ส่งเสริมภาพลักษณ์
แต่อันดับเครดิตส่งผลดีต่อต้นทุนการดำเนินธุรกิจ ความน่าเชื่อถือ
และยังส่งผลดีต่อสถาบันการเงินในการลงทุนสร้างผลตอบแทน อีกด้วย