CHASE เสนอขายหุ้น IPO 562 ล้านหุ้น พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ ปี 66

บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) (“CHASE” หรือ “บริษัทฯ”) หนึ่งในผู้นำการให้บริการจัดการหนี้สินอย่างครบวงจร เดินหน้าเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 562 ล้านหุ้น หลังจากที่..ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์แล้ว พร้อมเดินหน้าขยายและต่อยอดการเติบโตของธุรกิจ โดยชูศักยภาพความเป็นผู้นำในวงการบริหารหนี้ เสริมทัพด้วยทีมผู้บริหารมากประสบการณ์และบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ทำให้บริษัทบริหารหนี้สินอย่างครบวงจร รวมถึงพันธมิตรสำคัญอาร์เอส กรุ๊ป ซึ่งเข้าร่วมลงทุนผ่านบริษัทย่อยในสัดส่วน 35% ด้วยเล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโตของบริษัทฯ 

คุณประชา ชัยสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHASE กล่าวว่า “จากข้อมูลสถิติ ปริมาณสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ในระบบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามยอดสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นจากผลกระทบจาก COVID-19 และการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยในปี 2564 มีอัตราส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์มากถึง 531,000 ล้านบาท และคาดว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องทยอยขายหนี้เสียออกมาหลังหมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ในช่วงสิ้นปี 2565 ทำให้เป็นโอกาสในการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว โดย GDP ในปี 2565-2566 สูงขึ้นเป็น 3.3% และ 3.7% ซึ่งจะส่งผลให้การจ่ายชำระของลูกหนี้ดีขึ้น มองว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่ดีของธุรกิจ

ปัจจุบัน CHASE มีธุรกิจหลัก ได้แก่ บริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากการรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน พร้อมให้บริการติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สิน และมีบริการดำเนินคดีแบบครบวงจร โดยมีทีมบริหารที่แข็งแกร่ง 400 คน จึงทำให้คุมการบริหารจัดการและต้นทุนได้อย่างดีได้แก่  

ขยายพอร์ตเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL)

เพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามหนี้ผ่านระบบอัตโนมัติ

พัฒนาและขยายทีมติดตามทวงหนี้และเร่งรัดหนี้สิน

สร้างความสัมพันธ์กับสถาบันการเงินต่าง 

เพิ่มประสิทธิภาพในการบริการและเพิ่มช่องทางการสื่อสาร

คุณวรลักษณ์ ชัยสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กล่าวว่า “สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานที่ผ่านมา CHASE เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงระหว่างปี 2562 – 2564 โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) กว่า 10.8% รายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์จากการรับซื้อหรือโอน NPL ประมาณ 60% และธุรกิจติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สินอีกประมาณ 34% เนื่องจากมีการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการเติบโตของต้นทุนการให้บริการและค่าวิชาชีพ อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาส 3/2565 อัตรากำไรสุทธิปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า จากการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่เพิ่มขึ้น โดยฐานะทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ  ไตรมาส 3/2565 กลุ่มบริษัทฯ มีสินทรัพย์ 2,875.5 ล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) เท่ากับ 0.4 เท่า ซึ่งรองรับโอกาสในการเข้าซื้อ NPL ของกลุ่มบริษัทฯ ในอนาคต

ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้อย่างมืออาชีพ ทั้งยังช่วยเหลือลูกหนี้อย่างเต็มที่ และมีความสามารถในการจัดเก็บหนี้ที่ต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย ดูได้จากอัตราค่าคอมมิชชั่นที่สูงกว่า 20% เนื่องจาก CHASE มีความสามารถในการตามเก็บหนี้สินที่ตามเก็บยาก ทำให้ธนาคารส่งหนี้ในลักษณะดังกล่าวให้ CHASE มากกว่าบริษัทอื่น  และส่งผลให้ CHASE มีโอกาสในการเติบโตสูง ดังนั้น เงินที่ได้จากการระดมทุน IPO บริษัทฯ จะใช้ในการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน และเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของบริษัทฯ โดยภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2566 น่าจะดีขึ้นจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ซึ่งจะทำให้ลูกหนี้สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ดีขึ้น ส่งผลดีต่อการเติบโตของธุรกิจยิ่งขึ้นไปอีก

ขณะนี้ ..ได้แจ้งอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้น CHASE ให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 562 ล้านหุ้นแล้ว ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้กลุ่มบริษัทฯสามารถเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างเต็มศักยภาพ พร้อมเสริมความแข็งแกร่ง และต่อยอดการเติบโตของบริษัทฯ อย่างไม่หยุดยั้ง ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการให้บริการจัดการหนี้สิน ที่พร้อมเป็นผู้สนับสนุนพันธมิตรในการติดตามทวงถามหนี้ ในขณะเดียวกันก็เป็นที่ปรึกษาและให้ความรู้คู่วินัยในการบริหารหนี้ให้กับลูกหนี้” คุณประชา กล่าวปิดท้าย


#CHASE #เชฎฐ์เอเชีย #หุ้นIPO #ข่าวประจำวัน