PTTGC ตั้งเป้าปีหน้าเทิร์นอะราวด์-โรงกลั่นเดินเครื่องเต็มกำลัง

    PTTGC ตั้งเป้าปี 66 เทิรน์อะราวด์ รายได้เพิ่มขึ้น รับรู้รายได Allnex เต็มปี พร้อมดีล M&A โครงการพลาสติกรีไซเคิลในสหรัฐฯเพิ่มในปีหน้า เดินเครื่องผลิตพลาสติกรีไซเคิลในไทย เพิ่มขึ้นเป็น 60-80% จากเดิมราว 40%

    นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 66 บริษัทตั้งเป้าจะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ (เทิร์นอะราวด์) และยอดขายเติบโตขึ้นจากธุรกิจโรงกลั่น สามารถเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต หลังจากปีนี้ที่มีการปิดซ่อมบำรุงไปแล้ว ประกอบกับจะมีการรับรู้ผลการดำเนินงานของบริษัท Allnex เข้ามาเต็มปี รวมถึงการดำเนินงานของสำนักงาน PTT International Trading USA Inc. (PTTT USA) ในประเทศสหรัฐฯที่ทำการค้าในทวีปอเมริกาโดยเฉพาะการค้าปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่ยังมีการเติบโตดี ส่วนโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ ที่รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา แม้จะชะลอออกไป แต่ยังอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนต่อเนื่อง

    บริษัทได้มีการลงทุนเพิ่มเติมทั้งในรูปแบบร่วมลงทุนและการซื้อกิจการ (M&A) โดยสนใจโครงการพลาสติกรีไซเคิลหรือโครงการลดคาร์บอนในสหรัฐฯเพื่อขอรับสิทธิ์ประโยชน์ด้านเงินทุนจากสหรัฐ โดยคาดว่าน่าจะได้เห็นความชัดเจนได้ในปีหน้า บริษัทถือว่ามีความพร้อมด้านเงินทุน จากต้นทุนการเงินต่ำ และล่าสุดได้มีการเซ็นสัญญากับธนาคารไทยพาณิชย์ ออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัท มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท และยังเตรียมออกหุ้นกู้ มูลค่าราว 1.3 พันล้านบาท

    ขณะที่ความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการพลาสติกรีไซเคิลประเทศไทย (ENVICCO) นั้น คาดว่าปีหน้าจะสามารถเดินเครื่องกำลังการผลิตได้เต็มที่มากขึ้นราว 60-80% จากปัจจุบันมีการเดินเครื่องกำลังการผลิตอยู่ราว 40% ENVICCO ถือเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงระดับ Food Grade ซึ่งผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐ (US FDA) แล้ว และปัจจุบันอยู่ระหว่างยื่นขอสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออกใบรับรอง เพื่อให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มของไทยสามารถใช้ขวดรีไซเคิลของบริษัทได้ คาดว่าจะได้รับใบรับรองดังกล่าวได้ประมาณเดือนมี.ค.66

    ENVICCO มีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลสูงถึง 45,000 ตันต่อปี, เม็ดพลาสติก ชนิด rPET จำนวน 30,000 ตันต่อปี และเม็ดพลาสติก ชนิด rHDPE จำนวน 15,000 ตันต่อปี โดยช่วยลดขยะพลาสติกในประเทศไทยได้ถึง 60,000 ตันต่อปีและลดก๊าซเรือนกระจกได้ 75,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งเทียบเท่าการปลูกป่าประมาณ 78,000 ไร่ หรือปลูกต้นไม้ใหญ่กว่า 8.32 ล้านต้น

    ผลการดำเนินงาน 9 เดือนที่ผ่านมาในปี 65 ของ PTTGC  รายงานขาดทุนสุทธิ 7,784 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปี 64 มีกำไรสุทธิ 41,735 ล้านบาท

    ปัจจุบันราคาหุ้น PTTGC อยู่ที่ระหว่าง 45-47 บาท จากที่เคยทำราคาสูงสุดที่ 104 บาท ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตามแม้ว่ากำลังการผลิตของ PTTGC ผ่านมาอยู่ที่ 40หากในปี 2566 ขึ้นมาอยู่ที่ 60-80% จะมีการ Upsize ขึ้นเหมือนกำลังการผลิตได้หรือไม่ เพราะในปีหน้าบริษัทอาจต้องเผชิญความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูกันต่อไป