ตลท. ต้อนรับหุ้นCRC เทรด 20 ก.พ.นี้

บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ผู้นำในธุรกิจค้าปลีกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 20 ก.พ. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ราคา IPO 253,302 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า CRC

 

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการหมวดพาณิชย์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า CRC ในวันที่ 20 ก.พ. 2563

 

กลุ่ม CRC เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) และเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบ Omni-channel ในประเทศไทย กลุ่ม CRC เป็นผู้ประกอบการค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ป็นอันดับสามของประเทศเวียดนาม และเป็นผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี โดยมีร้านค้าในรูปแบบต่าง ๆ ในประเทศไทยจำนวน 1,922 ร้านค้า ครอบคลุม 51จังหวัด และ 133 ร้านค้าใน 40 จังหวัดของประเทศเวียดนาม และ 9 ห้างสรรพสินค้า ใน 8 เมืองของประเทศอิตาลี

 

CRC ประกอบธุรกิจโดยการลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีก โดยแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และรีนาเชนเต (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้านภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ และเพาเวอร์บาย และ (3) กลุ่มอาหาร ซึ่งจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าที่จำหน่ายทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และบิ๊กซี เวียดนาม

 ณ วันที่ 30 ต.ค. 2562 CRC มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 4,700 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรกจำนวน 1,691 ล้านหุ้น (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกินในราคาหุ้นละ 42 บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวม 71,022 ล้านบาท CRC มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งสิ้น 6,031 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 253,302 ล้านบาท (รวมมูลค่าหุ้นที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของ ROBINS ที่ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยมีที่ปรึกษาทางการเงิน ได้แก่ บมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง และบมจ. หลักทรัพย์ ภัทร และมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ 3 ราย ได้แก่ บมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง บมจ. หลักทรัพย์ ภัทร และบมจ. กสิกรไทย พร้อมด้วยผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 3 ราย ได้แก่ บมจ. หลักทรัพย์ กรุงศรี บล. ไทยพาณิชย์ และบมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) 

 

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า CRC มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่จากความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดของตลาดหลักทรัพย์ฯ เท่าที่เคยมีมา รวมทั้งยังเป็นหุ้น IPO ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่มีมูลค่าเสนอขายสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีต่อศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของผู้นำค้าปลีกไทยในระดับโลก โดย CRC มีแผนจะนำเงินที่ได้จากระดมทุนไปใช้ในการขยายกิจการรวมทั้งปรับปรุงสาขาต่าง ๆ ของธุรกิจค้าปลีกในเครือ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมค้าปลีกไทยและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม พร้อมกับการเป็นหุ้นพื้นฐานดีเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัดในระดับโลกอย่างยั่งยืน

 

CRC มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO อันดับแรก ได้แก่ HCDS ถือหุ้นรวม 35.1% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วMorgan Stanley & Co. International Plc ถือหุ้นรวม5.8% และ Hawthorn Resources Limited ถือหุ้นรวม4.2% ทั้งนี้ บริษัท มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และภายหลังการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้ อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลแตกต่างไปจากนโยบายที่กำหนดไว้ได้ ขึ้นอยู่กับผลประกอบการ สภาพคล่องทางการเงิน และความจำเป็นในการใช้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อบริหารกิจการ และแผนการขยายธุรกิจในอนาคต รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ