ถอดรหัสความสำเร็จของบัตรเครดิตเคทีซี กับเส้นทางเติบโตในหมวดสุขภาพและความงาม



เคทีซีเผยแนวโน้มธุรกิจสุขภาพและความงามเติบโตสวนกระแส เห็นได้จากพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี เติบโตก้าวกระโดดสูงกว่าอุตสาหกรรม เดินหน้ากลยุทธ์การตลาดอย่างเข้าใจและเข้าถึงผู้บริโภค ท่ามกลางพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงและบริบทสังคมที่เปลี่ยนไปหลังสถาการณ์โควิด-19 เตรียมรุกขยายจับมือพันธมิตรร้าค้าครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ รวมถึงกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่มกำลังซื้อสูง ด้วยสิทธิพิเศษครบทุกรูปแบบ ทั้งส่วนลด เครดิตเงินคืนและการผ่อนชำระพร้อมจัสิทธิประโยชน์ส่งท้ายปีเอาใจสมาชิกที่ใช้บริการตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาล แคมเปญ “ลุ้นสวยฟรีทั้งบิล” และแคมเปญ KTC - VISA FIFA World Cup Qatar 2022 โดยยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในหมวดสุขภาพและความงามติดอันดับ 4จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีทั้งหมด

 

นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้อำนวยการ-การตลาดบัตรเครดิต เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภาพรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีด้านสุขภาพและความงามระหว่างเดือนมกราคม กันยายน 2565 เติบโตดีมาก ด้วยแรงส่งจากหมวดโรงพยาบาล จากสถานการณ์โควิดที่ผ่อนคลายขึ้น จำนวนผู้ป่วยโควิดลดลง ทำให้โรงพยาบาลมีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วยโรคอื่นๆ มากขึ้น ประกอบกับผู้ป่วยกลับมารักษาในบริการที่เคยชะลอการรักษาในช่วงโควิดระบาดหนัก เช่น บริการผ่าตัดต่างๆ หรือบริการทันตกรรม ซึ่งส่วนมากเป็นการรักษาที่มียอดใช้จ่ายสูง หมวดความงาม คลินิกเสริมความงามมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังเปิดให้บริการได้ตามปกติ ผู้บริโภคคลายกังวลและกลับไปใช้บริการมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและใช้บริการต่อเนื่อง อาทิ โปรแกรมยกกระชับและศัลยกรรมความงาม ประกอบกับเทรนด์ความงามกำลังมาแรงสำหรับผู้บริโภคในยุคนี้ที่ต้องการเสริมความมั่นใจเพื่อให้ตัวเองดูดี โดยผู้บริโภคที่มีอายุน้อยยังหันมาดูแลตัวเองในด้านความงามเพิ่มมากขึ้น

 

ส่วนหมวดกีฬาและฟิตเนส การใช้จ่ายในหมวดกีฬาและฟิตเนสเริ่มกลับมาคึกคัก ด้วยปัจจัยการแข่งขันกีฬาต่างๆ ที่กลับมาจัดงานได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นงานวิ่งหรือปั่นจักรยาน ทั้งนี้จากข้อมูลแพลตฟอร์มสมัครงานวิ่ง คาดว่าในปีนี้จะมีการจัดงานวิ่งประมาณ 600 -700 งาน ส่งผลให้สมาชิกเริ่มซื้อสินค้าอุปกรณ์กีฬาและบริการฟิตเนส สำหรับใช้ในการเตรียมตัวฝึกซ้อมเพื่อแข่งขันมากขึ้น นอกจากนี้ส่วนของสปอร์ตแฟชั่นที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ส่งผลให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่การใส่เล่นกีฬาเพียงอย่างเดียว จึงทำให้เกิดการซื้อซ้ำมากขึ้น

 

เคทีซีมีจุดแข็งในการทำการตลาดแบบเข้าใจผู้บริโภค โดยมอบสิทธิพิเศษดูแลสุขภาพแบบครบวงจร  เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคไม่ได้รอให้ป่วยก่อนแล้วค่อยรักษา แต่ผู้บริโภคต้องการป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค โดยมีการใส่ใจสุขภาพตนเองมากขึ้น ควบคู่กับการดูแลเรื่องความงามเพื่อให้เกิดความมั่นใจ นอกจากนั้นยังเน้นขยายการมอบสิทธิพิเศษครอบคลุมร้านค้าทุกภูมิภาคทั่วประเทศกับพันธมิตรธุรกิจชั้นนำในรูปแบบของส่วนลด เครดิตเงินคืน รวมถึงสามารถผ่อนชำระได้ ทำให้เราสามารถเข้าถึงสมาชิกผู้บริโภคได้มากขึ้น หมวดโรงพยาบาล ครอบคลุมพันธมิตรทั้งโรงพยาบาลรัฐบาล โรงพยาบาลเอกชน คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม และร้านขายยา รวมกว่า700 แห่งทั่วประเทศ หมวดความงาม ครอบคลุมคลินิกเสริมความงาม ร้านนวดสปา ร้านทำผม ร้านทำเล็บกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ หมวดกีฬาและฟิตเนสครอบคลุมทุกแบรนด์กีฬา และร้านค้ากีฬาชั้นนำ สตูดิโอฟิตเนสขนาดใหญ่ รวถึงร้านค้า ฟิตเนสรายย่อยกว่า 500 ร้านค้าทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมี KTC Sports Group ซึ่งเป็น Community ของสมาชิกบัตรที่มีไลฟ์สไตล์รักการออกกำลังกาย โดยมีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพด้วยการออกกำลังกายตลอดทั้งปี มีสมาชิกภายในกลุ่มมากกว่า 4,000 คน ด้วยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดสุขภาพและความงามมีมูลค่า 15,961 ล้านบาท เติบโต 39% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 และมียอดใช้จ่ายเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมเมื่อเทียบกับภาพรวมของตลาด โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีเติบโตสูงกว่าตลาดทั้ง หมวด ได้แก่ หมวดโรงพยาบาล หมวดความงาม หมวดกีฬาและฟิตเนส

 

แพทย์หญิงธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมวรรธน์ เฮลท์ จำกัด กล่าวว่า “หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เทรนด์การดูแลสุขภาพเน้นในเชิงป้องกัน (Preventive) เช่น การตรวจสุขภาพ  ทานอาหารสุขภาพ ทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ให้มีสุขภาพยืนยาว (Longevity) และใส่ใจสุขภาพจิตกันมากขึ้น(Mental Health) โดยเน้นการจัดการกับความเครียดเพื่อลดภาวะซึมเศร้าและลดความเครียดในชีวิตประจำวัน ประกอบกับนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเติบโตขึ้น การเข้าถึงแพทย์หรือการดูแลสุขภาพก็ไม่ใช่เรื่องยาก รวมถึงมีการวางแผนรูปแบบโปรแกรมการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยและอาการของโรคในแต่ละคน(Personalized) ที่จะกลายเป็นเทรนด์สุขภาพในอนาคตซึ่งสามารถป้องกันได้ก่อนเกิดโรค”

 

“ด้วยความท้าทายของธุรกิจการดูแลสุขภาพ (Healthcare)  ที่ถูกเทคโนโลยีและ COVID-19 เข้ามาเป็นตัวแปรทำให้ โรงพยาบาลต้องมีการปรับเปลี่ยน ปรับตัวตลอดเวลา เริ่มจากแนวคิด #เราไม่อยากให้ใครป่วย เน้นการตรวจเพื่อป้องกันการเกิดโรคในแต่ละช่วงวัย (Early Detection และ Total Health Solution) ที่ย่อมจะดีกว่าการรักษา ซึ่งสิ่งที่     สมิติเวชให้ความสำคัญมาตลอด คือมีการนำเทคโนโลยีมาร่วมกับการแพทย์ เพื่อให้คนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ง่ายยิ่งขึ้น เช่น บริการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ออนไลน์ 24 ชั่วโมง (Samitivej Virtual Hospital) แอพลิเคชันติดตามข้อมูลสุขภาพผู้ป่วยโรคเบาหวาน และความดันโลหิตแบบเรียลไทม์ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง(Engage Care) ระบบติดตามสถานะการผ่าตัดแบบเรียลไทม์ (Samitivej Pace) ระบบติดตามสถานะการดูแลผู้ป่วยในวอร์ด (Samitivej Prompt) และแอปฯ พบหมอผิวหนัง ซื้อยา ช้อปดีลความงาม (SkinX)

 

“SkinX” คือ แพลตฟอร์มสำหรับปรึกษาแพทย์ผิวหนังออนไลน์ที่ครบวงจรที่สุดในประเทศไทย ถือเป็น           แอปพลิเคชันด้านการรักษาผ่านระบบโทรเวชกรรม (Telemedicine) ที่รวบรวมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังไว้มากที่สุด โดยมียอดผู้ดาวน์โหลดใช้งานแล้วกว่า 400,000 ครั้ง ให้บริการตั้งแต่พบแพทย์เพื่อให้คำปรึกษา สั่งยา เก็บประวัติ ติดตามผล และมีราคายาที่เป็นธรรม พร้อมบริการจัดส่งยาตามใบสั่งแพทย์โดยเภสัชกรถึงบ้าน นอกจากนั้นยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลผิวโดยเภสัชกร (SkinX Store)พร้อมรวมดีลแพ็กเกจความงามจากโรงพยาบาล และคลินิกที่ได้มาตรฐานไว้ในแอปฯ เดียว (SkinX Super Deal) โดยสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ อาทิ รับส่วนลด 100 บาท เมื่อมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำผ่านเเอปฯ 1,000 บาท พร้อมกรอกโค้ด "KTC100"รับส่วนลด 50% เมื่อซื้อดีลความงาม (ลดสูงสุดไม่เกิน3,000 บาท จำกัด 10 คน ตลอดเเคมเปญ) เพียงกรอกโค้ด  "KTC50" ในขั้นตอนสรุปค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2565 สมาชิกเคทีซีสามารถดาวน์โหลดแอปฯ SkinX ได้ที่ http://bit.ly/SkinXapp นอกจากนั้นโรงพยาบาลสมิติเวชยังมอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตเคทีซีระดับพรีเมียมตามที่กำหนด รับสิทธิ์การเป็นสมาชิกสมิติเวช เฟิร์ส(Samitivej First) ทันทีเมื่อแสดงบัตรฯ ที่เดอะ เฟิร์ส เลาจน์ (The First Lounge) โรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิท หรือที่สมิติเวช   เอ็กซ์คลูซีฟ เลานจ์ (Samitivej Exclusive Lounge) โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่                กุมภาพันธ์ 2566– 31 ธันวาคม 2566

 

 

นายแพทย์พุทธพงศ์ เหลืองรัตน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วี สแควร์ คลินิก (V Square Clinic) กล่าวว่า “สมัยก่อนคนมักยึดติดกับความสวยงามในแบบที่อยากจะเป็น และมักคิดว่าจะดูดีขึ้นได้ต้องทำศัลยกรรม แต่ปัจจุบันคนยอมรับความสวยความหล่อในแบบที่ตัวเองเป็น แล้วนำตัวตนมาพัฒนาให้ดูดีขึ้น ส่งผลให้เกิดความมั่นใจในแบบของตน (Self Confidence) ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์ของวี สแควร์ คลินิก ที่ต้องการให้คนมีความมั่นใจมากขึ้นในแบบของตัวเอง ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ กับการเน้นหัตถการที่ทำแล้วธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาว เช่น ใช้โบท็อกซ์ (Botox) ฟิลเลอร์ (Filler) หรือเครื่องมือยกกระชับทดแทน (Face Lift Machine) จึงไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยนโครงหน้าของตัวเองเสมอไป เราเน้นความสำคัญของความรู้จริงในสิ่งที่นำเสนอลูกค้า มีข้อมูลที่แน่นอน ทำแล้วเห็นผล เน้นความจริงใจ ด้วยแพทย์ที่มีประสบการณ์กับผลิตภัณฑ์ที่ดีในราคาคุ้มค่า ในบรรยากาศพรีเมี่ยมและบริการที่เป็นเลิศ ที่ผ่านมา วี สแควร์ คลินิก และเคทีซีเป็นพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจ เป็นที่ปรึกษาร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและนำไปพัฒนาการบริการของร้าน  มีลูกค้าเคทีซีไปใช้บริการที่คลินิกจำนวนมาก โดยนิยมใช้บริการ โบ