สิงห์ เอสเตทจัด3เซกเมนท์ใหม่รุกบ้านเดี่ยวลักชัวรี่ เปิดขาย ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส

"สิงห์ เอสเตทฯ"ชี้เทรนด์พฤติกรรมผู้ซื้อเปลี่ยนไป อยู่บ้านนานขึ้น พร้อมรุกตลาดโครงการแนวราบ เจาะกลุ่ม 3 เซกเมนท์ใหม่ ระดับราคาตั้งแต่ 10 ลบ.ถึงกว่า 100 ลบ. นำร่องเปิดโฉมโครงการใหม่ 'ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส'ทำเลพัฒนาการ 32 ใกล้เมือง เดินตามแผนโรดแม็ป 5 ปี เปิดโครงการมูลค่ารวม 52,000 ลบ.เน้นพอร์ตแนวราบ รายได้ธุรกิจที่พักอาศัยสู่ระดับ 10,000 ล้านบาท มั่นใจปี 65 รายได้กลุ่มที่อยู่อาศัยตามเป้า 4,400 ลบ.

นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ "S" เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทยว่า จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีผลต่อเทรนด์ที่อยู่อาศัยเปลี่ยนไป โดยจะพบว่า ดีมานด์ของตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงปี 2561-2562 อยู่มีสัดส่วนที่สูงกว่าตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ แต่เมื่อเข้าสู่การเริ่มระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อปี 2563 ตลาดคอนโดฯได้รับผลกระทบ และคาดว่าปี 2564 จะชะลอตัวลดลง -27% ซึ่งคาดว่าตลาดคอนโดฯจะกลับมาพลิกฟื้นประมาณปี 2566 ในขณะที่กลุ่มสินค้าแนวราบทั้งประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ความต้องการซื้อกลับมาเติบโต หลังจากพฤติกรรมการอยู่อาศัยเปลี่ยนไปอย่างมาก เทรนด์การอยู่บ้านนานขึ้น มองหาบ้านที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ ต้องตอบโจทย์ฟงก์ชั่นที่หลากหลายมากขึ้น

"ช่วงเกิดการระบาดของโควิด-19 บริษัทสิงห์ เอสเตทฯไม่ได้หายไปไหน โดยเรามีการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ การขยับไปสู่ธุรกิจใหม่ๆที่มีศักยภาพ การขายบริษัทลูกที่ทำพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยออกไป โดยที่บริษัทสิงห์ฯจะเข้ามาพัฒนาโครงการเอง ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่เราปรับตัว และวันนี้ เราพร้อมแล้ว โดยทุกโครงการของสิงห์ เอสเตทฯจะมุ่งสร้างคุณค่าและความยั่งยืนให้ทุกชีวิต หรือ Enriching Life พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาโครงการให้เป็น Best In Class เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ด้วยคุณภาพในระดับสากล ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม"นายณัฐวุฒิ กล่าวและว่า

ในแผนการรุกตลาดแนวราบ ทาง สิงห์ เอสเตทฯได้วาง 3 เซ็กเมนท์ใหม่ในการขยับลงทุนพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว แบ่งเป็นกลุ่ม 1.บ้านเดี่ยวระดับ ซุปเปอร์ลักชัวรี่ ระดับราคา 50-100 ล้านบาท เพื่อเป็นการต่อยอดจากการพัฒนาโครงการสันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซล กลุ่ม 2. บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ ระดับราคา 20-50 ล้านบาท และกลุ่ม 3. ที่อยู่อาศัย Affordable ลักชัวรี ราคาจับต้องได้ ระดับราคา 10-20 ล้านบาท เน้นเรื่องการออกแบบที่มีความเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นต้น

ซึ่งในปีนี้ จะเปิด 1 โครงการ ได้แก่ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส รูปแบบ้านเดี่ยวสร้างเสร็จพร้อมอยู่จำนวน 32 หลัง ราคาเริ่มต้น 65 ล้านบาท ไปจนถึงหลังใหญ่สุดที่ 120 ล้านบาท พัฒนาบนเนื้อที่ 20 ไร่ มูลค่ารวม 2,900 ล้าน จะเปิดขายในเดือนกันยายน 65 วางเป้ายอดโอนกรรมสิทธิ์มูลค่า 600 ล้านบาท และคาดว่าจะมีรายได้จากยอนโอนฯเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 66 และข้ามไปต้นปี 67 เพียงบางส่วน

"โครงการใหม่ สิงห์ เอสเตทฯมีการลงทุนซื้อที่ดินล่วงหน้า 1 ปีก่อนนำพัฒนา โดยอีก 2 แบรนด์ใหม่จะเริ่มดำเนินการในปีนี้ แต่จะไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมชื่อแบรนด์ในปี 66 อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ในแผนธุรกิจ 5 ปี (2565-2569) จะมีการสร้างโครงการใหม่รวมมูลค่า 52,000 ล้านบาท วางสัดส่วนแนวราบต่อคอนโดฯอยู่ที่ร้อยละ 75 และ 25 เน้นทำเลศักยภาพ มีโครงการตั้งแต่ระดับ 10-100 ล้านบาท ใน 3 เซกเมนท์ ซึ่งปีนี้ชัดเจนเปิด 1 โครงการ และจะทยอยเปิดต่อเนื่องปีละประมาณ 2,000-14,000 ล้านบาท โดยคาดว่าธุรกิจที่พักอาศัยจะสร้างรายได้รวมต่อปีสูงกว่า 10,000 บ้านบาทในปี 69"

สำหรับแนวโน้มเป้ารายได้ในกลุ่มที่อยู่อาศัยนั้น เป้าอยู่ที่ 4,400 ล้านบาท โดยมาจากการรับรู้รายได้ของโครงการ"สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส" ซึ่งมีมูลค่า Backlog อยู่ที่ 2,600 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ 70% รวมถึงการโอนฯคอนโดพร้อมอยู่ 2 โครง การได้แก่โครงการ ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ และ ดิ เอส อโศก รวมถึงรายได้เพิ่มเติมจากโครงการเปิดใหม่ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส เป็นต้น.