บลจ.วี จับจังหวะ SET ปรับฐาน ออก IPO ‘กอง WE-THAITRIG6M’ รับตลาดหุ้นครึ่งปีหลังฟื้นตัว

บลจ.วี มองเศรษฐกิจไทยมีโอกาสเติบโต จากปัจจัยด้านเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ทรงตัวช่วงครึ่งปีหลังหนุนตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น เปิดขาย IPO “กองทุนเปิด วี ไทย ทริกเกอร์ 6M (WE-THAITRIG6M)” เป้าหมายเลิกโครงการ 6%* ใน 6 เดือน  ระหว่างวันที่ 17-20 .. 2565 โอกาสการลงทุนในระยะสั้นช่วงหุ้นไทยปรับฐาน

นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด หรือ บลจ.วี เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจโลกกำลังถูกกดดันจากหลายปัจจัยทั้งเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) พร้อมกับการใช้มาตรการ Quantitative Tightening (QT) และสงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงจากมาตรการล็อคดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19 ทำให้สินทรัพย์แทบทุกประเภทปรับตัวลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชียรวมทั้งไทยจากกระแสเงินลงทุน (Fund flow) ที่ไหลออก

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียรวมทั้งไทยพบว่า ยังมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีสนับสนุนการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้เศรษฐกิจไทยยังสามารถขยายตัวสวนทางกับเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวลดลง เนื่องจากเงินเฟ้อภายในประเทศที่ต่ำ อีกทั้งการระบาดของโควิด-19 ที่ดีขึ้น ทำให้สามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้ ซึ่งเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจรวมทั้งตลาดหุ้นไทย คาดว่าตลาดหุ้นครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวได้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ (Inflation) สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ลดลงในหลายประเทศส่งผลให้ภาวะตึงตัวของอุปทาน (Supply chain problem) มีแนวโน้มคลี่คลายที่ดีขึ้น นอกจากนี้ประเด็นที่น่าสนใจคือ ดัชนีหุ้น S&P500 ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงในช่วง 82 วันทำการแรกของปีนี้ เมื่อดูสถิติข้อมูลในอดีต พบว่าหลังจากตลาดหุ้นปรับลดลงแรงช่วง 82 วันทำการแรกของปี ในช่วงที่เหลือของปีตลาดหุ้นมักให้ผลตอบแทนเป็นบวก เนื่องจากตลาดปรับตัวสะท้อนข่าวร้ายไปมากแล้ว (Priced-in negative factors) (ที่มา: Source: Charlie Bilello | April, 2022)

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจความเห็นนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯล่าสุด พบว่าส่วนใหญ่แทบทั้งหมดมีความกังวลว่าตลาดจะเข้าสู่ภาวะหมี (Extremely bearish sentiment) มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990 ซึ่งจากสถิติจะพบว่า เมื่อนักลงทุนอยู่ในภาวะ Extremely bearish ตลาดจะเกิดการฟื้นตัวได้ในช่วง 3 – 6 เดือนหลังจากนั้น ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่จะเริ่มขยายตัวในอัตราที่ลดลง หลังการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ที่ตลาดปรับตัวรับรู้ไปแล้ว  อีกทั้งการลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening: QT) ดูผ่อนคลายมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้คาดว่าปริมาณเงินในระบบจะคงอยู่ในระดับสูงต่อไป ซึ่งทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯจะเติบโตแบบสมดุล (Normalized) มากขึ้นและยังไม่เห็นสัญญาณการถดถอย (Recession) ของเศรษฐกิจ (ที่มา: Source: BCA Research | Global Investment Strategy | April 22, 2022)

ด้วยภาพเชิงบวกดังกล่าว บลจ.วี มองว่าดัชนี SET Index ที่ปรับลดลงตามการปรับฐานของตลาดหุ้นต่างประเทศในเวลานี้ เป็นจังหวะดีในการเข้าลงทุนในหุ้นไทย จึงเปิดเสนอขาย IPO กองทุนเปิด วี ไทย ทริกเกอร์ 6M (WE-THAITRIG6M) ในระหว่างวันที่ 17-20 .. 2565 กองทุนมีระดับความเสี่ยงระดับ 6 (ความเสี่ยงสูง) ลงทุนแบบมีเป้าหมายเลิกโครงการ 6%* ในระยะเวลา 6 เดือน หรือเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.63 บาทต่อหน่วย และต้องไม่ต่ำกว่า 10.60 บาทต่อหน่วย และมูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกคือ 5,000 บาท

 

โดยกองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก (Mid-Small Caps) ที่มีปัจจัยสนับสนุนเฉพาะตัว(Positive catalysts) ในการเติบโตของกำไรในอนาคต (Growth) จากข้อมูลย้อนหลัง 6 เดือน พบว่าหุ้นขนาดกลาง-ขนาดเล็ก อ้างอิงด้วยดัชนี sSET Index ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวม (SET Index) อย่างมีนัยสำคัญ (sSET 10.17% Vs SET 1.8%) (ที่มา: Source: Bloomberg | May 5, 2022)

นอกจากนี้ กองทุนยังคัดเลือกหุ้นด้วยการวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ รวมถึงการเข้าเยี่ยมชมกิจการ (Company visit) และการสัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัท เพื่อคัดเลือกหุ้นที่ดีที่สุด รวมทั้งการจับจังหวะเพื่อเข้าซื้อและขายหุ้นที่ทีมจัดการลงทุนก็เน้นให้ความสำคัญเช่นกัน ขณะเดียวกันมุมมองของนักวิเคราะห์ (Bloomberg consensus) คาดการณ์ว่าเป้าหมายดัชนี SET Index อีก 12 เดือนข้างหน้า จะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,917.94 จุด ระดับราคาต่อกำไรสุทธิ (PE) ที่ระดับ 18.81 เท่า จากระดับปัจจุบันที่1,629.58 จุด หรือคิดเป็น Upside 17.7% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า หรือราว 9% ในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยนักวิเคราะห์แนะนำซื้อ (Buy) หุ้นทั้งหมด 205 ตัว จากหุ้นที่มีการออกบทวิเคราะห์ทั้งสิ้น 310 ตัว คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 66% หรือราวใน 3 ของหุ้นทั้งหมด (ที่มา: Source: Bloomberg | May 7, 2022)

ด้วยภาพรวมของเศรษฐกิจแม้จะมีความผันผวนจากหลายปัจจัยกระทบต่อตลาดหุ้น แต่ตลาดหุ้นไทยมีความน่าลงทุนและมีความผันผวนน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก อีกทั้งกำไรสุทธิของหุ้นไทยมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในปีนี้และอีก 2 ปีข้างหน้า  บลจ.วี จึงแนะนำว่า SET Index ที่ปรับลดลงตามการปรับฐานของตลาดหุ้นต่างประเทศ เป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุนในหุ้นไทยเพื่อโอกาสการลงทุนในระยะสั้น ผ่านกองทุนเปิด วี ไทย ทริกเกอร์6M (WE-THAITRIG6M)" นายอิศรากล่าว  

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด(“บลจ.วี”) โทรศัพท์ 02-351-1800 กด 2 หรือตัวแทนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของ บลจ.วี ได้แก่บล.เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน)บล.หยวนต้า (ประเทศไทยจำกัด,บล.โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน),บล.เคจีไอ (ประเทศไทยจำกัด (มหาชน),บล.ฟิลลิป (ประเทศไทยจำกัด (มหาชน),บล.เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน),บลน.เว็ลธ์เมจิกจำกัดบล.เอเชียเวลท์ จำกัด,บล.เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด,บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน),บลน.ฐานเศรษฐกิจ แคปพิตอล จำกัด, บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน),บล.กสิกรไทย จำกัด(มหาชน),บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน),บลน.ฟินโนมินา จำกัด, บลเมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทยจำกัด(มหาชน),ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน),บลน.โรโบเวลธ์ จำกัดบลน.เวลท์ รีพับบลิค จำกัด, บลน.แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัดบล.ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด และบล.สยามเวลธ์ จำกัด