WP ปูพรมธุรกิจปี 63 ลุยงานครบสูตร ทุ่ม 200 ลบ.เสริมความแข็งแกร่ง แบรนด์ เวิลด์แก๊ส


 

บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) เปิดยุทธศาสตร์ปี 63 ทุ่มงบลงทุน 200 ล้านบาท  เสริมความแข็งแกร่ง แบรนด์ “เวิลด์แก๊ส” ให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น คาดช่วยเพิ่มยอดขายประมาณ 2 – 3% “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง”  ปักธงลุยขยายฐานกระจายสินค้าให้ครอบคลุม แถมเล็งหาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเสริมทัพให้แข็งแกร่ง  มั่นใจหนุนผลงานในอนาคตโตต่อเนื่อง

 

 

นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP เปิดเผยถึง ทิศทางธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2563 ว่า พร้อมเดินหน้าผลักดันธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น  โดยได้ตั้งงบลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า  200 ล้านบาท  เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก คือ แบรนด์  “เวิลด์แก๊ส” ให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น  ทั้งจุดกระจายสินค้าขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพื่อขยายฐานกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น   ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทฯ ได้ประมาณ 2-3% อีกทั้งยังมุ่งเน้นขยายไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ธุรกิจผลิตและซ่อมถัง รวมถึงมองหาโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)   เพื่อต่อยอดธุรกิจหลักและเสริมศักยภาพในส่วนของรายได้และกำไรให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น  

 

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2563 คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากประเมินยอดขายโดยรวมจะเติบโตได้ 1-2% จากปี 2562 ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเชื่อว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากสัดส่วนการขายที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของจุดกระจายสินค้าที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

 

“ภาพรวมธุรกิจในปี 2562 ถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ โดยเฉพาะธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในภาคครัวเรือน ที่เป็นรายได้หลัก โดยคาดว่าสัดส่วนการขายจากกลุ่มดังกล่าว จะเพิ่มขึ้นเป็น60%  จากเดิมอยู่ที่ 50%   ซึ่งบริษัทฯ ยังคงมองหาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องจากธุรกิจเดิม เพื่อเสริมศักยภาพผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น   “นางสาวชมกมลกล่าว

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  กล่าวต่อถึง ปัจจัยเสี่ยงของบริษัท ว่า ต้องติดตามเรื่องของ  เสถียรภาพของราคาLPG ในประเทศ  ซึ่งปัจจุบัน ภาครัฐยังคงตรึงราคาไว้  โดยมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาช่วยเหลือ เพื่อให้เกิดเสถียรภาพทางด้านราคา   และอีกปัจจัย คือ  เศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งอาจมีผลบ้าง เนื่องจากมีผลต่อการบริโภคโดยตรง แต่ไม่มากนัก เนื่องจากLPG จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน   ส่วนค่าเงินบาทยังไม่มีผลกระทบต่อบริษัทฯ  เนื่องจากรายได้หลักเกือบ 100% อยู่ในประเทศ

 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรม LPG  ในประเทศปี 2563 เชื่อว่า ยังคงทรงตัว เนื่องจากเป็นสินค้าที่ต้องใช้ และมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน   ส่วนทางด้านราคาคาดว่า ยังคงทรงตัว ไม่หวือหวามากนัก เนื่องจาก ยังคงมีกองทุนน้ำมันมาช่วยพยุง เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านราคา

 

     อย่างไรก็ดี LPG ภาคขนส่ง อาจจะมีการใช้ที่ลดลง เนื่องจากผู้บริโภค หันกลับมาใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุผลของราคาน้ำมันปรับตัวลดลงค่อนข้างมากในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าคงจะลดลงไม่มากเหมือน 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคา LPG ยังถูกกว่า น้ำมันอยู่พอสมควร และผู้อุปโภคเริ่มมองเห็นว่า การใช้ LPG ยังช่วยในเรื่องของมลภาวะ และเรื่องฝุ่น PM 2.5 อีกด้วย