ซีไอเอ็มบีไทย โชว์กำไรปี 2564 จำนวน 2,440.6 ล้านบาท พุ่งร้อยละ 89.1

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย(CIMBT) เปิดเผย ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีกำไรสุทธิจำนวน 2,440.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,150 ล้านบาท หรือร้อยละ 89.1 เมื่อเปรียบเทียบผลกำไรสุทธิของงวดเดียวกันปี 2563 สาเหตุหลักเกิดจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงร้อยละ 8.1 และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงร้อยละ 25.7 ในขณะที่รายได้จากการดำเนินงานลดลงร้อยละ 3.9

ด้านรายได้จากการดำเนินงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีจำนวน 14,347.4 ล้านบาท ลดลงจำนวน579.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.9 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2563 เนื่องจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 988.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.0 เนื่องจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและธุรกิจเช่าซื้ออันเนื่องมาจากการขยายตัวของสินเชื่อลดลง   สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจำนวน 337.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.9 ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นนายหน้าขายประกันและหน่วยลงทุน   รายได้จากการดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้นจำนวน 71.2 ล้านบาท หรือร้อยละ2.6 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน

ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2563 ลดลงจำนวน 723.3 ล้านบาทหรือร้อยละ 8.1 เนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้จากการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 อยู่ที่ร้อยละ 57.0 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2563 อยู่ที่ร้อยละ 59.6

อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin – NIM) สำหรับปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 3.1 ลดลงจากงวดเดียวกันปี 2563 อยู่ที่ร้อยละ 3.2 เป็นผลจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและธุรกิจเช่าซื้อ

วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงินของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 211.9 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.6 เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ  วันที่ 31 ธันวาคม 2563 กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภทจำนวน 233.1 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.1 จากสิ้นปี 2563 ซึ่งมีจำนวน 250.9  พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 90.9 จากร้อยละ 90.5   วันที่ 31 ธันวาคม 2563

สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) อยู่ที่ 7.9 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้นอยู่ที่ร้อยละ 3.7 ลดลงเมื่อเทียบกับ  วันที่ 31 ธันวาคม 2563 อยู่ที่ร้อยละ 4.6 สาเหตุหลักจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 2564 การบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ การปรับปรุงการบริหารคุณภาพสินทรัพย์และกระบวนการในการเก็บหนี้

อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ  วันที่ 31 ธันวาคม2564 อยู่ที่ร้อยละ 117.5  เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 93.3  ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 8.3 พันล้านบาท เป็นเงินสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 1.5 พันล้านบาท

สำหรับเงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร  สิ้นวันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีจำนวน 54.4 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงร้อยละ 22.4 โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 16.3