กรมสรรพากรคว้า ๖ รางวัลชนะเลิศเพชรวายุภักษ์ ครั้งที่ ๘

เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ กรมสรรพากรรับรางวัลชนะเลิศเพชรวายุภักษ์ ครั้งที่ ๘ จากกระทรวงการคลัง ซึ่งได้รับเกียรติจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายกฤษฎา จีนะวิจารณะปลัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้มอบรางวัล ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพฯ  

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “การประกวดรางวัลเพชรวายุภักษ์ เป็นการส่งเสริม กระตุ้น และสร้างแรงจูงใจให้หน่วยงานและบุคลากร ในสังกัดกระทรวงการคลัง เกิดความตื่นตัวในการพัฒนานวัตกรรม ปรับปรุงคุณภาพกระบวนการทำงานภายในหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือรูปแบบการให้บริการใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานและประชาชน ภายใต้ภารกิจหลักตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงการคลังอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ กรมสรรพากรคว้ารางวัลชนะเลิศ จำนวน ๖ ผลงาน  โดยมีรายละเอียด ดังนี้

• รางวัลระดับกรมหรือเทียบเท่า 

๑. ประเภทผลงานนวัตกรรมกระบวนการทำงานใหม่ รางวัลชนะเลิศระดับ Diamond จากผลงาน D-Section ๑๒ ระบบออกคำสั่งตามมาตรา ๑๒ แห่งประมวลรัษฎากร ระบบการ Transform กระบวนการเร่งรัดภาษีอากรค้างจากกระดาษเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ทำให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดภาษีอากรค้าง ตามมาตรา ๑๒ แห่งประมวลรัษฎากร สามารถปฏิบัติงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

๒. ประเภทผลงานนวัตกรรมผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ รางวัลชนะเลิศระดับ Gold จากผลงานระบบการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว (Application Thailand VRT) ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ระบบการคืนเงินภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติผ่าน Mobile Application Thailand VRT ด้วยเทคโนโลยี Blockchain เป็นแห่งแรกของโลก โดยเชื่อมต่อข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ด้วยแนวคิดยึดนักท่องเที่ยวเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้บริการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว ถูกต้อง และรวดเร็ว ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าให้เพิ่มขึ้น ส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อเนื่อง และลดการใช้กระดาษ สร้างความมั่นใจให้ทุกฝ่ายที่เข้ามาเชื่อมโยงข้อมูลกันในระบบรู้สึกปลอดภัย 

๓. ประเภทผลงานขยายผลต่อยอดนวัตกรรม รางวัลชนะเลิศระดับ Silver จากผลงานจัดเตรียมแบบภาษี (ภ.ง.ด.๙๑) ด้วยเทคโนโลยี Open API ระบบงานที่เปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเชื่อมโยงระบบกับกรมสรรพากร ซึ่งจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการยื่นแบบและชำระภาษีผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น ทำให้การยื่นแบบและเสียภาษีเป็นเรื่องง่าย

• รางวัลระดับสำนัก กอง หรือเทียบเท่า 

๑. ประเภทผลงานนวัตกรรม รางวัลชนะเลิศระดับ Diamond จากผลงาน e-Stamp Duty ระบบการชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยเพิ่มความสะดวกและเป็นการสนับสนุนนโยบาย National e-Payment ของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการเสียภาษี เป็นการส่งเสริมธุรกิจให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น

๒. ประเภทผลงานขยายผลต่อยอดนวัตกรรม รางวัลชนะเลิศระดับ Silver จากผลงานระบบบริหารจัดการสำนักงาน Green Office ผลงานข้างต้นประกอบด้วย ๓ ระบบ ได้แก่ ๑) ระบบบริหารจัดการเปลี่ยนแปลง ภ.พ.๐๙ ๒) ระบบบริหารจัดการข้อมูล Newbalance และ ๓) ระบบหนังสือร้องเรียน   ทำให้ทราบการทำงานทุกขั้นตอนติดตามงานได้สะดวกรวดเร็ว เชื่อมต่อการทำงานกับ LINE Application แจ้งสถานะงานเพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

• รางวัลประเภทคณะบุคคล  

๑. ประเภทแนวคิดผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ รางวัลชนะเลิศระดับ Silver จากผลงาน My Tax Checker System ระบบจัดการหนี้ภาษีอากร ระบบอำนวยความสะดวกให้ผู้เสียภาษีที่มีหนี้ภาษีอากรค้าง จัดการชำระหนี้ภาษีอากรได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องมาพบเจ้าหน้าที่ เพิ่มช่องทางในการจ่ายเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคาร อันช่วยลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการชำระหนี้ภาษีอากร รวมถึงลดต้นทุนในการจัดเก็บภาษี”

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร  กล่าวโดยสรุปว่า “รางวัลเพชรวายุภักษ์นับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ สร้างความภาคภูมิใจ และเป็นกำลังใจให้กับผู้พัฒนาผลงานด้านนวัตกรรมในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ กรมสรรพากรได้รับรางวัลจากองค์กรชั้นนำต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น ๑๒ รางวัล ประกอบด้วย รางวัลเลิศรัฐยอดเยี่ยม และรางวัลเลิศรัฐสาขาต่างๆ จากคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) รวม ๘ รางวัล รางวัล Thailand Digital Transformation Award ๒๐๒๑ รางวัลรัฐบาลดิจิทัล และรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษย์ (ภาครัฐ) ประจำปี ๒๕๖๔ จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพกระบวนงานการทำงาน เพื่อสร้างสรรค์บริการที่ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นให้กับพี่น้องประชาชน โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้กับนวัตกรรมกระบวนการทำงานใหม่ ๆ มาใช้ในการพัฒนาต่อยอด จนทำให้เกิดรูปแบบการให้บริการ ที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว แก่พี่น้องประชาชน โดยนวัตกรรมต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างรายได้ และพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เกิดความยั่งยืนสืบไป”