WICE โชว์งบ 9 เดือน ปี 64 นิวไฮต่อเนื่อง


 

WICE โชว์ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 64นิวไฮต่อเนื่อง รายได้รวม 5,278.37 ล้านบาท กำไรสุทธิ 355.17 ล้านบาท โต 150.67% มองทิศทางไตรมาส 4/64 ไฮซีซั่น โตต่อเนื่อง มุ่งเน้นขยายโครงข่าโลจิสติกส์ เพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ รองรับความต้องการขนส่งข้ามแดน เพิ่มบริการสร้างรายได้ มั่นใจผลประกอบการปี 64 โตตามเป้า

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยถึง ผลประกอบการงวด 9เดือน ปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 5,278.37 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม2,606.41 ล้านบาท             จำนวน 2,671.96 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 102.52 % และ มีกำไรสุทธิ355.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 141.69 ล้านบาท จำนวน 213.48ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 150.67 % 

ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3/64 บริษัทมีรายได้รวม 2,284.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน         ปีก่อนที่มีรายได้รวม 916.39 ล้านบาทจำนวน 1,368.34 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 149.32 %และ มีกำไรสุทธิ 162.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 56.16 ล้านบาทจำนวน 106.00 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 188.75 %

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมีการขยายโครข่ายการให้บริการ          โลจิสติกส์ให้มีความครอบคลุมมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหรรมต่างๆ ล่าสุดได้มีการจัดตั้งสาขาย่อยในต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย และ เมืองหนิงโป ประเทศจีน พร้อมให้บริการครบวงจรตั้งแต่การขนส่งจนถึงกระบวนการจัดเก็บ เพิ่มโอกาสการรับงานจากลูกค้า 

อีกทั้งมีปัจจัยเสริมจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดลูกค้าหลัก ประเทศสหรัฐอเมริกา และ จีน ที่มีปริมาณความต้องการขนส่ทางทะเล (Sea Freight) และการขนส่งทางอากาศ (Air Freight) ปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้านค่าระวางขนส่งทั้งทางเรือและทางอากาศที่อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบจากช่วงต้นปี            ที่ 3-5เท่า ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทอย่างต่อเนื่อง

สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/64 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ คาดว่าจะสามารถทำนิวไฮต่อเนื่อง บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจโดยเฉพาะบริการขนส่งข้ามแดน (Cross Border Serviceซึ่งในครึ่งปีแรกได้เพิ่ม                 ตู้คอนเทนเนอร์เป็น 500 ตู้ เพื่อรองรับการขยายตัวที่มีแนวโน้มปริมาณงานเพิ่มขึ้มจากความนิยมของลูกค้าในช่วงที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะทยอยรับมอบได้ครบถ้วนภายในสิ้นปี 64

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการขนส่งทางทะเล (Sea Freight) 45% ,งานบริการทางอากาศ (Air Freight) 25%, ขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Service) 25% , และงานซัพพลายเชน 5%

“บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายโครงข่ายโลจิสติกส์ให้บริการครอบคลุมทุกเส้นทางการขนส่งและเพิ่มรูปแบบการให้บริการเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร เพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าการดำเนินงานดังกล่าวจะสามารถผลักดันให้รายได้ปี 64 เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้” นายชูเดช กล่าว