บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เดินหน้ารับนโยบายการเปิดประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ประกาศความพร้อมต้อนรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกสู่กลุ่มโรงแรมในเครือทั่วประเทศทั้ง 18 แห่งด้วยมาตรฐาน SHA+ มั่นใจภาคการท่องเที่ยวปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้ากลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมเผยโฉมโรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ อีกหนึ่งโรงแรมคุณภาพจากเครือ AWC ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต “ไข่มุกเม็ดงามแห่งอันดามัน” ที่ได้ฤกษ์เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
ตามที่ประเทศไทยได้มีนโยบายเปิดประเทศ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัวนั้น นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงภาพรวมและผลตอบรับหลังการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวว่า จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน บรรยากาศการท่องเที่ยวเริ่มดีขึ้นโดยลำดับ อัตราการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเฉลี่ย 2,000-3,000 คน/วัน โดยที่นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกามีจำนวนมากที่สุด รองลงมาได้แก่ เยอรมนีอังกฤษ ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจีน ผ่านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ถึงความพร้อมและมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว “Visit Thailand Year 2022” ด้วยแนวคิด “Amazing New Chapters” ของ ททท. ทั้ง 29 สำนักงานทั่วโลก ทั้งคาดว่าปี 2564 นี้ ประเทศไทยจะสามารถรับนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน
“ททท. มั่นใจว่า ภายในปี 2564 นี้ ประเทศไทยจะสร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ไม่น้อยกว่า 625,700 ล้านบาท และจะบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อส่งเสริมให้เกิดมูลค่าเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในปี 2565 จำนวนไม่น้อยกว่า 1,938,034 ล้านบาท ด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ 160 ล้าน คน-ครั้ง และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ 18 ล้านคน” นางสาวฐาปนีย์ กล่าว
ทางด้านนางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปจำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนโยบายเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมที่ตั้งอยู่ในหัวเมืองสำคัญอย่างกรุงเทพฯ หรือภูเก็ต ที่เปรียบเสมือนประตูด่านแรกในการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งมีตัวเลขของอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นทันทีกว่า 2 เท่า รวมถึงแพ็คเกจ “Test & Rest SHA+” สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ด้วยบริการที่พักพร้อมการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ที่ต่างได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
“ด้วยชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยซึ่งจุดหมายปลายทางที่โด่งดังในระดับโลก โดยมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งทางทะเลและชายหาดอันงดงามที่เป็นดั่งสวรรค์แห่งการพักผ่อนหย่อนใจหรือจะเป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งของภูมิภาค รวมถึงอาหารอันเลื่องชื่อซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ตลอดจนภูมิประเทศอันน่าตื่นตะลึง และมีมาตรฐานในธุรกิจการบริการด้านการโรงแรมและที่พักระดับสากล ทำให้ไทยนอกจากเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยสำหรับการเดินทางแล้ว ยังถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องการกลับมาเยือนหลังจากสถานการณ์ดีขึ้น” นางวัลลภา กล่าว
ทั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณบวกของภาคการท่องเที่ยวในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2564 และในช่วงต้นปีหน้าที่เริ่มมีกำลังซื้อจากกลุ่มนักเดินทางชาวต่างชาติกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูงที่เริ่มเดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มแรกๆ รวมถึงงานในรูปแบบที่การประชุมออนไลน์ไม่สามารถทดแทนได้อาทิ งานแต่งงาน งานสัมมนารวมทีมสร้างพลังองค์กรและธุรกิจ ได้เห็นยอดคอนเฟิร์มการจัดงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะมีอัตราเติบโตกลับมาได้ต่อเนื่องการสามารถกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2565 เป็นต้นไป
“ด้วยกลยุทธ์ของ AWC ที่มีความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ทำให้บริษัทฯ สามารถดึงฐานลูกค้าเดิมที่มีกำลังซื้อสูงกลับเข้ามาได้ทันทีตั้งแต่เริ่มเปิดประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของเราในการร่วมกับพันธมิตรให้การสร้างคุณค่าและประสบการณ์รวมทั้งจัดรูปแบบบริการแบบองค์รวมในการดูแลการเดินเข้ามาในประเทศ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับการท่องเที่ยวไทยของเรากลับมาดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกอีกครั้ง” นางวัลลภากล่าวเสริม
นอกจากนี้ AWC ยังเดินหน้าเสริมพอร์ทโฟลิโอ ธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง วันนี้โดยนี้ได้ฤกษ์เปิดให้บริการโรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ โรงแรมขนาด 248 ห้องพักที่บริหารโดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลเครือโรงแรมระดับโลกที่มีแบรนด์อันโดดเด่นภายใต้การบริหารกว่า 30 แบรนด์ชั้นนำ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญ นอกจากนี้ ยังเป็นโรงแรมแห่งแรกภายใต้แบรนด์ “คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท” บนเกาะภูเก็ตสอดคล้องกับกลยุทธ์พัฒนาธุรกิจของ AWC ที่มุ่งสร้างเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางของโลกและพัฒนาภาพรวมของธุรกิจการบริการและการท่องเที่ยวในอนาคต รวมถึงส่งเสริมความเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไปในภาพรวม
AWC มุ่งมั่นที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศและกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย โดยประกาศความพร้อมต้อนรับนักเดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสู่กลุ่มโรงแรมในเครือทั้ง 18 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ใน 6 เมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่าง กรุงเทพฯ กระบี่ หัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ และเกาะสมุย โดยมีจำนวนห้องพักรวมกันกว่า4,941 ห้อง ซึ่งผ่านการรับรองและให้บริการตามมาตรฐานของ Amazing Thailand Safety & Health Administration หรือ SHA+ รวมถึงมาตรฐานของเชนบริหารโรงแรมระดับโลก ที่ให้ความสำคัญและเข้มงวดในเรื่องความสะอาด สุขอนามัย และความปลอดภัยของแขกผู้มาใช้บริการ ทั้งในส่วนของห้องพัก ห้องอาหาร รวมถึงสระว่ายน้ำ และบริการสปาภายในโรงแรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวยุคใหม่อย่างครบวงจร