IMH เคาะราคาเสนอขาย 6 บาทต่อหุ้น ดีเดย์เปิดจองซื้อ 18 - 20 ธ.ค. - พร้อมเทรด 26 ธ.ค.นี้


– บมจ. โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ  (IMHเคาะราคาเสนอขาย IPO หุ้นละ 6.00 บาท จากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 55 ล้านหุ้น และมูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น พร้อมลงนามแต่งตั้ง บล.เอเชีย เวลท์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย                และ บล.โกลเบล็ก บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ พร้อมข่าวดีก่อนเปิดจอง นักลงทุนสถาบันแห่ขอจองซื้อหุ้น IPO แล้วกว่า 10%ของหุ้นที่เสนอขาย ก่อนดีเดย์เปิดจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 18 – 20 ธ.ค.นี้ เตรียมลงสนามเทรด mai วันที่ 26 ธ.ค.62 ด้าน CEO  ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์  ชูจุดเด่น ความเชี่ยวชาญ ความเป็นโรงพยาบาลให้บริการตรวจสุขภาพฯ เฉพาะทาง แบบครบวงจร กว่า 23 ปี ตั้งเป้านำองค์กรก้าวสู่การเป็นผู้นำโรงพยาบาล ด้านการตรวจสุขภาพอาชีวเวชศาสตร์ และสุขศาสตร์อุตสาหกรรมชั้นนำ ที่มีผู้รับบริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ ที่มากที่สุดในประเทศไทย ประกาศจุดยืน เป็น IPO Growth Stock  น้องใหม่ที่น่าจับตาส่งท้ายปี 

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2562 บริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อย่อ  “IMH ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด เป็นผู้จัดการ                 การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) พร้อมทั้ง แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์      โกลเบล็ก จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 55 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.58 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด โดยมีมูลค่า ที่ตราไว้ 0.50 บาท

นายกอบเกียรติ บุญธีรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด              ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Lead Underwriter)                  บริษัทโรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH เปิดเผยว่า บริษัทฯได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ของ IMH ที่ระดับ 6.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าการระดมทุน 330 ล้าบาท 

        สำหรับการเสนอขายหุ้น IMH เตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อ IPO ระหว่างวันที่ 18 – 20 ธันวาคมนี้                  โดยจองผ่านบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ,บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน)  และคาดว่าหุ้น IMH จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์                    เอ็ม เอ ไอ ภายในวันที่ 26 ธันวาคมนี้

ความน่าสนใจของหุ้น IMH นั้น มองว่า เป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการแบบเชิงรุกนอกสถานที่ (Mobile Checkup) พร้อมด้วยประสบการณ์ให้บริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ 23 ปี ซึ่งมีจุดเด่นที่มีกลุ่มลูกค้าครอบคลุมในหลายอุตสาหกรรมทั่วประเทศ พร้อมบริการตรวจสุขภาพครบวงจรในแบบต่างๆ เช่น ตรวจสุขภาพประจำปีตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงตรวจสุขภาพก่อนเข้างานบริการฉีดวัคซีนบริการหน่วยปฐมพยาบาล และ CPR    ด้วยศักยภาพรองรับการตรวจสุขภาพลูกค้าได้มากถึง 5,000 คน ต่อวัน และให้บริการได้สูงสุดถึง 31 จุดบริการต่อวัน จึงครอบคลุมได้เกือบทุกพื้นที่ 

ด้าน ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล                        แคร์ แอนด์ แล็บ  (IMH) กล่าวเพิ่มเติมว่า  สำหรับราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของ IMH ที่ระดับ 6.00 าท นั้น ถือว่าเป็นระดับราคาที่เหมาะสม เมื่อพิจารณาโอกาสในการเติบโตจากการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต โดยในจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด 55 ล้านหุ้น ในขณะนี้ได้มีสถาบัน แสดงความสนใจ และต้องการจองซื้อหุ้น IPO ของบริษัทฯ จำนวน 5.54 ล้านหุ้น  หรือ 10.07% ของจำนวนหุ้น IPO ที่เสนอขายทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในตัวบริษัทของนักลงทุนสถาบัน

             ส่วนการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯได้เม็ดเงินจากการระดมทุน จำนวน 330 ล้านบาทเพื่อนำไปใช้ในปรับปรุง และขยายสาขาใหม่ พร้อมทั้งการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ของบริษัทย่อย อีกทั้งเพื่อใช้สำหรับการชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ      

ด้วยจุดแข็งการเป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการแบบเชิงรุกนอกสถานที่ (Mobile Checkup) ครอบคลุมลูกค้า หลายอุตสาหกรรม ทั่วประเทศ ที่มีประสบการณ์ในการให้บริการ ด้านการตรวจสุขภาพมานาน 23 ปี โดยได้รับการการันตี จากฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง และได้รับความไว้วางใจอย่างเสมอมา อาทิ Thai Union Group , Tesco Lotus , 7-11 ,  PTTEP ,  KFC , Makro , Homepro , Mcdonald's , King Power, Thai Honda, Western Digital, Index Living, Betagro, TQM, PT group และ Gulf เป็นต้น

พร้อมกันนี้ ยังมีบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ แอคคิวฟาส แล็บ เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งให้บริการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมมานาน 14 ปี เช่น การตรวจคุณภาพอากาศบริเวณสถานประกอบการ การตรวจวัดคุณภาพปล่องระบาย และการตรวจวัดคุณภาพน้ำที่อุปโภคและบริโภครวมถึงน้ำทิ้ง น้ำผิวดิน                             โดยมีห้องปฎิบัติการได้รับมาตรฐาน ISO 9001:2015 ISO/IEC 17025:2005 และการจัดอันดับการออกผลจาก EQA:SC อันดับต้นๆ  

ทั้งนี้จากศักยภาพ และความเชี่ยวชาญ จึงส่งผลให้ IMH ได้ลงนามในสัญญาแบ่งส่วนรายได้การตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลที่เป็นสมาชิกประกันสังคม  โดยสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนด้านการให้บริการการตรวจสุขภาพ โดย IMH จะเป็นโรงพยาบาลให้บริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ ทั้งพนักงานบริษัทเอกชน และแรงงานต่างด้าว ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ให้บริการตรวจสุขภาพเชิงรุก                                 แก่ผู้ประกันตน ประมาณ 300,000 คน 

และมีแนวโน้มที่ผู้ใช้บริการจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในปี 2562 ที่มีถึง 11.30 ล้านคน (อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ)  

 จากความแข็งแกร่ง และแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจ จึงมีความมั่นใจว่า หุ้น IMHจะเป็นหุ้น Growth Stock ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ด้วยนโยบายการจ่ายปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 40%   ของกำไรสุทธิ ดังนั้นด้วยนโยบายการลงทุนและขยายธุรกิจในแต่ละครั้ง จะสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่                  ผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอน

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ซึ่งเป็น                  บริษัทในเครือของบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินกล่าวเสริมถึงความแข็งแกร่งของหุ้น IMH ว่า ประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของธุรกิจการให้บริการตรวจสุขภาพและธุรกิจการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม จึงทำให้ธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความชำนาญในการให้บริการแก่ลูกค้าจำนวนค่อนข้างมาก จึงทำให้มีการใช้เครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์เพิ่มขึ้น และช่วยเพิ่มอำนาจการต่อรองต่อผู้จัดจำหน่ายแก่บริษัท และทำให้บริษัทมีจุดแข็งในการแข่งขันด้านราคา

สำหรับการดำเนินธุรกิจใช้แนวทางบริหารรายได้เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของรายได้ตามฤดูกาลของธุรกิจตรวจสุขภาพประจำปี จึงทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตกระจายไปในธุรกิจบริการทางการแพทย์อื่นๆเพิ่มขึ้น โดยผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีย้อนหลังปี2559 – 2561 และงวด 9 เดือน ปี 2562 กลุ่มบริษัทฯมีรายได้รวม 285.51 ล้านบาท 273.20 ล้านบาท 320.25 ล้านบาท และ 237.32 ล้านบาท และ                มีกำไรสุทธิ 37.58 ล้านบาท 14.85 ล้านบาท 14.06 ล้านบาท และ 6.72 ล้านบาท ตามลำดับ