เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ได้วิเคราะห์กันไว้แล้ว ว่าหลังจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เมื่อคืนที่ผ่านมา จะมีการประกาศเกี่ยวกับการปรับลดวงเงิน QE ซึ่งถือว่าตามคาด โดย FED จะปรับลดวงเงิน QE โดยเริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายน เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยแบ่งเป็นการปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เดือนละ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปรับลดวงเงินซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) เดือนละ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
FED ได้มองว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจและอัตราการจ้างงานในสหรัฐฯ ยังคงเติบโตได้ดี จึงมีความเห็นที่จะปรับลดการซื้อพันธบัตรในวงเงินที่เท่าๆกัน แต่อย่างไรก็ตาม FED ไม่ได้มีการดำเนินการอย่างตายตัว และพร้อมปรับเปลี่ยนได้ทุกครั้งหากมีการเปลี่ยนแปลง
ในปัจจุบันที่มีหลายฝ่ายได้กังวลเกี่ยวกับสภาวะเงินเฟ้อในตอนนี้ ทาง FED ก็ยังเชื่อมั่นว่าการเกิดของเงินเฟ้อนั้นเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่ง Fed ยอมรับว่า ปัญหาที่ระบบ Supply Chain ของโลกในขณะนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ความเสี่ยงเงินเฟ้อกินเวลานานกว่าที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้า
นักวิเคราะห์หลายฝ่ายกำลังคาดการณ์ว่า FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้า ประมาณเดือนกรกฎาคม ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาที่มาตรการ QE ของ FED ได้จบลงพอดี