SME D Bank คว้า “AAA(tha)” จากฟิทช์ เรทติ้งส์สูงสุดในประเทศ 9 ปีซ้อน

SME D Bank ได้รับจัดอันดับเครดิตจาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทยประจำปี 2564 ระดับ “AAA(tha)” และคงอันดับเครดิตระยะสั้น "F1+(tha)" นับเป็นอันดับเครดิตสูงสุดภายในประเทศ ต่อเนื่อง 9 ปีซ้อน สะท้อนความมีเสถียรภาพและมีบทบาทสำคัญช่วยพยุงเศรษฐกิจ ผ่านการเติมทุนเสริมสภาพคล่อง หนุนเอสเอ็มอีสามารถรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้เป็นอย่างดี       

นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank   เปิดเผยว่า  บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)จำกัด ได้ประกาศผลการจัดเครดิตของ   SME D Bank  ประจำปี 2564 โดยให้คงอันดับภายในประเทศอยู่ที่ “AAA(tha)” แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ นับเป็นอันดับสูงที่สุดสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศ  และคงอันดับเครดิตระยะสั้นที่ “F1+(tha)” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 (ปี 2556-2564) สะท้อนมุมมองของฟิทช์ ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ SME D Bank จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในกรณีที่มีความจำเป็น อีกทั้ง SME D Bank มีบทบาทสำคัญด้านการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อเต็มรูปแบบจากธนาคารพาณิชย์ได้   

นอกจากนี้ ฟิทช์ยังมองว่า สถานะของ SME D Bank มีความเข้มแข็ง เพราะก่อตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติเฉพาะเพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาล โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นถึง 99.4%  และที่สำคัญ ในสภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอในปัจจุบัน SME D Bank ได้แสดงบทบาทในการช่วยพยุงเศรษฐกิจ ผ่านการเติมทุนเพิ่มสภาพคล่อง ผ่านบริการสินเชื่อต่างๆ  ช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถรับมือจากผลกระทบของการระบาดอย่างรุนแรงของโควิด-19  

ทั้งนี้ จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา SME D Bank ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือของรัฐบาล ให้การช่วยเหลือเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง ผ่านมาตรการเติม “ความรู้คู่ทุน”  สนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ช่วยเสริมสภาพคล่อง รักษาการจ้างงาน เช่น  สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash”   ครอบคลุมช่วยเหลือทุกกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งทางตรง และทางอ้อม อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ใน 2 ปีแรก  ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันผ่อนนาน 10 ปีปลอดชำระคืนเงินต้น (Grace Period) สูงสุดไม่เกิน 2 ปี และ “สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน”  นิติบุคคล  อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 2.875%ต่อปี นาน 3 ปีแรก  ผ่อนนาน 10 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้น(Grace Period) สูงสุดไม่เกิน 2 ปี เป็นต้น  ควบคู่กับมีมาตรการเติมความรู้เพิ่มศักยภาพ ยกระดับธุรกิจ ขยายตลาดใหม่ โดยเฉพาะผ่านอีคอมเมิร์ซ  ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง ช่วยให้เอสเอ็มอีเพิ่มรายได้ และสามารถปรับตัวก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปได้ด้วยดี