บี.กริม เพาเวอร์ ปลื้มคว้า หุ้นยั่งยืน 4 ปีซ้อน

บี.กริม เพาเวอร์ ปลื้มคว้า “หุ้นยั่งยืน” ปีซ้อน

ตอกย้ำแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม

บริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล ด้วยรากฐานการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี

 

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้จัดทำ Thailand Sustainability Investment (THSI) หรือรายชื่อหุ้นยั่งยืน ซึ่งปีนี้บริษัทได้รับคัดเลือกให้เป็น ใน 146 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีการดำเนินงานแบบยั่งยืน หรือ “หุ้นยั่งยืน” ในกลุ่มทรัพยากร (Resources) ประจำปี 2564 โดยได้รับคัดเลือกต่อเนื่องเป็นปีที่ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม ตลอดจนการบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล สอดคล้องตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นอกเหนือจากการได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI ตลอดปี 2564 แล้ว บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ยังได้รับการคัดเลือกจากองค์กรและหน่วยงานด้านความยั่งยืนทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลากหลายองค์กร ซึ่งล้วนเป็นองค์กรขั้นนำในระดับสากลให้ได้รับรางวัลในด้านความยั่งยืน ซึ่งตอกย้ำปรัชญาการดำเนินธุรกิจของ บี.กริม ตลอดระยะเวลา 143 ปี ด้วยรากฐาน “การดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี” ที่มุ่งสร้างประโยชน์ให้กับผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม

สำหรับรางวัลต่างๆ ที่บริษัทได้รับในปีนี้ ประกอบด้วย การได้รับอันดับความน่าเชื่อถือระดับ จาก MSCI ESG Rating รวมถึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนระดับโลก “FTSE4Good Index Series” เป็นปีที่ ติดต่อกัน นอกจากนี้ ยังได้รับคัดเลือกให้อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG 100 จากสถาบันไทยพัฒน์ เป็นปีที่ ติดต่อกันอีกด้วย

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า ท่ามกลางความท้าทาย ทั้งด้านเศรษฐกิจและวิกฤตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บี.กริม เพาเวอร์ ยังคงยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี โดยมีการนำแนวทางบริหารจัดการภาวะวิกฤตมาใช้รับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผลิตพลังงานที่มีคุณภาพสูงและบริการแบบครบวงจร ควบคู่กับการเตรียมความพร้อมในด้าน Digital Transformation เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว และสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน พร้อมขับเคลื่อนไปสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions) ในปี พ.ศ. 2593