KUN เคาะราคาเสนอขาย 1.10 บาทต่อหุ้น จองซื้อ IPO 3-4 และ 6 ธ.ค. ดีเดย์ เทรด mai 17 ธ.ค.นี้


 
- บมจ. วิลล่า คุณาลัย หรือ KUN  ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ฯ ภายใต้แบรนด์                “ คุณาลัย ” เคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 1.10 บาท แต่งตั้ง บล. เอเชีย เวลท์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย          และรับประกันการจัดจำหน่าย ขณะที่  บล. เคทีบี (ประเทศไทย) และ บล. เอเอสแอล เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เตรียมเสนอขาย IPO ระหว่างวันที่ 3-4 และ 6 ธันวาคมนี้ พร้อมลงสนามเทรด mai วันที่ 17  ธันวาคมนี้ด้าน CEO KUN “ประวีรัตน์ เทวอักษร” ประกาศ ชู จุดแข็งการสร้างเมือง แบบป่าล้อมเมือง ปักธงทำเลทองย่านบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ศูนย์กลางของแหล่งที่อยู่อาศัย ในโซนกรุงเทพฝั่งตะวันตกภายใต้แนวคิด “สุขใจอยู่บ้านชานเมือง” ระบุเตรียมพัฒนาและขยายโครงการให้ครบ 4 ทิศ รอบกรุงเทพมหานคร (เหนือ, ใต้, ตะวันออก, ตะวันตก) เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขายในเขตปริมณฑล
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อย่อ “ KUN ” ได้ลงนาม         ในสัญญาแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกัน                      การจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) พร้อมแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัดและ       บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 150 ล้านหุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด                ของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้
นายกอบเกียรติ บุญธีรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด                 ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน  (Lead Underwriter)                    บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยว่า บริษัทฯได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ของ KUN   ที่ระดับราคา 1.10 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าการระดมทุน 165 ล้านบาท พิจารณาจากอัตราส่วนราคา ต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio)  10.78 เท่า โดยคำนวนกำไรสุทธิต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานในช่วง 4  ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ไตรมาส4 ปี 61ถึง ไตรมาส 3 ปี 62 ) เทียบกับอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) เฉลี่ย ของบริษัทใกล้เคียงที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน มีค่าเท่ากับ 11.24 เท่า และมีส่วนลดให้กับนักลงทุนเล็กน้อย ซึ่งระดับราคาดังกล่าวถือเป็นราคาที่เหมาะสม เมื่ออิงกับปัจจัยพื้นฐาน
 
หุ้น KUNเตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อ IPO ระหว่างวันที่3-4 และ 6 ธันวาคมนี้ โดยสามารถจองซื้อผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด , บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด และ                         บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ได้ในวันดังกล่าว และคาดว่าหุ้น KUN จะเข้าซื้อขายวันแรกใน                 ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในวันที่ 17 ธันวาคมนี้
“ การกำหนดราคาหุ้นIPO ของ KUN ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีความน่าสนใจ เนื่องจากบริษัทฯ เน้นจุดเด่นในการสร้างเมืองที่อยู่อาศัย โดยปักหมุดบนพื้นที่ทำเลทอง ย่านบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางของแหล่งที่อยู่อาศัยในโซนกรุงเทพฝั่งตะวันตก           โดยมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ในการทำธุรกิจพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวมานานกว่า 10 ปี ประกอบกับบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยิ่งทำให้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ”
ด้าน นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยว่า  สำหรับราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของ KUN ที่ระดับ 1.10 บาท นั้น ถือว่าเป็นระดับราคาที่เหมาะสม เมื่อพิจารณาโอกาสในการเติบโตจากการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต โดยการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯได้เม็ดเงินจากการระดมทุน จำนวน 165 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมีแผนที่จะนำเงินไปต่อยอด เพื่อพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ภายใต้แนวคิด “สุขใจอยู่บ้านชานเมือง” เพื่อพัฒนาและขยายโครงการในทำเลอื่นๆ ตามแผนยุทธ์ศาสตร์ป่าล้อมเมือง ให้ครบ 4 ทิศ รอบกรุงเทพมหานคร (เหนือ, ใต้, ตะวันออก, ตะวันตก) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและวิสัยทัศน์ที่บริษัทฯ วางไว้ เพื่อเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งของแบรนด์ธุรกิจ ในการก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขายในเขตปริมณฑล ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย รวมถึงการเติบโตแบบมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต ให้สมกับการเป็นบริษัทมหาชน พร้อมกันนี้บริษัทฯจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และชำระหนี้ในบางส่วน
ทั้งนี้ KUN มีนโยบายการจ่ายปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และทุนสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี
สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ในอนาคตนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯเตรียมเปิดโครงการใหม่ จำนวน 2 โครงการ  มูลค่ารวม 2,172 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย 1)โครงการคุณาลัย จอย 2 ซึ่งเป็นโครงการประเภทบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท ตั้งอยู่            ที่จังหวัดนนทบุรี โดยคาดว่าสามารถเปิดการขายได้ ภายในไตรมาส 2/2563  และ 2)โครงการวิลล่า วาณิช        เป็นโครงการประเภทอาคารพาณิชย์ มูลค่าโครงการประมาณ 672 ล้านบาท ตั้งอยู่อำเภอบางบัวทอง                   จังหวัดนนทบุรีเช่นกัน
 
 
“โครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่กลุ่มบริษัทฯ ที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมด 7 โครงการ ภายใต้          4 แบรนด์ ซึ่งประกอบด้วย คุณาลัย บีกินส์ , คุณาลัย ซิมโฟนี , คุณาลัย พอลเลน และคุณาลัย จอย                  ซึ่งโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ที่บางบัวทอง บนพื้นที่ 250 ไร่ ล่าสุด บริษัทฯ ได้ขยายพื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ ที่ฉะเชิงเทรา ภายใต้โครงการ “คุณาลัย จอย ออน 314” บนพื้นที่ประมาณ 24 ไร่ โดยมองว่าทำเลดังกล่าวมีศักยภาพ อัตราการเติบโต และมีความต้องการของแหล่งที่อยู่อาศัย เช่นเดียวกับย่านบางบัวทอง ประกอบกับเขตพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจากแผนการวางยุทธศาสตร์ของภาครัฐบาล ยิ่งเป็นเครื่องตอกย้ำแสดงให้เห็นว่า “ฉะเชิงเทรา จะเป็นเมืองใหม่แห่งใหม่ ของการอยู่อาศัย” ซึ่งตอบโจทย์ “ วิลล่า คุณาลัย”  ที่มีจุดเด่นในการสร้างเมืองที่อยู่อาศัยชั้นดี ”  นางประวีรัตน์กล่าว 
นางปิยะภา จงเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเพิ่มเติมว่า บมจ.วิลล่า คุณาลัย (KUN) เป็นผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์             ที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี โดยจุดเด่นของ KUN คือการสร้างเมือง และมีสานสัมพันธ์อันดีกับชุมชน        และด้วยศักยภาพการเติบโต ที่มีความโดดเด่น อย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จาก ผลการดำเนินงานงวดล่าสุด 9 เดือนแรก ของปี2562  ซึ่งบริษัทฯมีความสามารถในการทำกำไรสุทธิ 43.15 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นถึง 28% ซึ่งสูงกว่ากำไรในปี 2561ที่ผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิ 11.56 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้น 25% ในขณะที่ปี 2560 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 10.80 ล้านบาท และ ปี2559 บริษัทฯมีความสามารถในการทำกำไรสุทธิที่ระดับ 5.94 ล้านบาท และส่วนอัตราการเติบโตของรายได้ ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ   
ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าว เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพ ด้านการบริหารจัดการ รวมถึงประสบการณ์และวิสัยทัศน์ ของทีมคณะผู้บริหารประกอบการทีมงานในบริษัทฯทุกคน ที่ใส่ใจและ          ให้ความสำคัญบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเครื่องตอกย้ำแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ในการก้าวสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขาย ในเขตปริมณฑล ครบ 4 ทิศ รอบกรุงเทพมหานคร