‘CV’ ดีเดย์เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก 2 ก.ย.นี้

CV ดีเดย์เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพยแห่งประเทศไทยเป็นวันแรก 2 ..นี้  

รุกขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในไทยและ่างประเทศ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน 

ปลื้มนักลงทุนตอบรับจองซื้อหุ้น IPO ล้นหลาม ชูพื้นฐานธุรกิจพลังงานหมุนเวียนเทียบชั้นระดับอาเซียน

 

บมจ. โคลเวอร์ เพาเวอร์’ หรือ CV พร้อมนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)เป็นวันแรก 2 ก..นี้ มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับดี ปลื้มยอดจองซื้อหุ้น IPO ล้นหลาม ชูพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง รับแผนรุกขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในไทยและต่างประเทศ ก้าวเทียบชั้นบริษัทพลังงานในระดับภูมิภาคอาเซียน

นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ CV ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และผู้ให้บริการด้านงานวิศวกรรมแบบครบวงจร ผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย  ตามวิสัยทัศน์ในการเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำ ที่ส่งมอบคุณค่าจากพลังงานหมุนเวียน สู่สังคมโลก เพื่อความยั่งยืนเปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ กันยายน 2564 โดยใช้ชื่อย่อ ‘CV’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์หลังประสบความสำเร็จเสนอขายหุ้น IPO ในวันที่ 25-27 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา จำนวน 320 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 3.90 บาท ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพและพื้นฐานธุรกิจพลังงานหมุนเวียนแบบครบวงจรที่มีความแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

บริษัทฯ มุ่งเน้นขยายการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานหมุนเวียนและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทั้งประเทศไทยและในประเทศที่กำลังเติบโตด้านอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้น โดยเน้นลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนควบคู่กับงานด้านวิศวกรรม Valued EPC แบบครบวงจร ในกลุ่มเทคโนโลยีพลังงานจากเชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ ชีวมวล ขยะ และก๊าซชีวภาพ รวมถึงพลังงานสะอาด ได้แก่ แสงอาทิตย์ พลังงานลม และก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น

ทั้งนี้ ภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ CV วางแผนขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยภายในปี 2564-2566 จะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้ในการลงทุนโครงการโรงคัดแยกและแปรรูปขยะ RDF จำนวน โครงการ และโรงไฟฟ้าจำนวน 3 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 47.16 เมกะวัตต์ ดังนี้

(1โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 1โครงการ ได้แก่ โรงคัดแยกและแปรรูปขยะ เพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงขยะ (Refuse Derived Fuel: RDF) ดำเนินการภายใต้บริษัท CVR ในจังหวัดพิจิตร ขนาดกำลังการผลิตประมาณ 150 ตันต่อวัน มูลค่าเงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นไม่เกิน 210 ล้านบาท คาดก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 4 ปีนี้

(2โครงการที่อยู่ระหว่างเข้าซื้อกิจการจำนวน 1โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าแบบพลังงานความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าชธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 7.36 เมกะวัตต์ มูลค่าเงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 170 ล้านบาท คาดจะเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญเดิมจากผู้ขายได้ภายในเดือนกันยายน 2564 และ

(3) บริษัทฯ อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลในประเทศญี่ปุ่นจำนวน โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 39.8 เมกะวัตต์ ในประเทศญี่ปุ่น เงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นโครงการละประมาณ 430 ล้านบาท รวมทั้ง โครงการประมาณ 860 ล้านบาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/2566 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CV กล่าวเพิ่มเติมว่า CV มีแผนพัฒนาและลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับห่วงโซ่คุณค่าในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและกลยุทธ์ด้านการสร้างความมั่นคงทางธุรกิจและการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยอยู่ระหว่างเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) ประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล จำนวน 8 โครงการ รวมกำลังผลิตติดตั้งรวมที่ยื่นประมูลประมาณ 49.2 เมกะวัตต์ คาดว่าจะรู้ผลการประกาศผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการประมาณไตรมาส 3/2564 และอยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ โรงไฟฟ้าชีวมวล โครงการระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) และโครงการโรงพลังงานแสงอาทิตย์ประเภทติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farm) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับผลการดำเนินงานของ CV ในระยะยาว

บริษัทฯ มองหาโอกาสในการต่อยอดธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรม (Valued EPC) ในอนาคต ทั้งลักษณะเป็นผู้พัฒนาโครงการเอง และที่ให้บริการEPC กับลูกค้า ล่าสุด CV ได้ลงนามสัญญางาน EPC เพิ่มเติม กับลูกค้า ราย มูลค่างานประมาณ 216.67ล้านบาท สนับสนุนให้มีงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ ยังมีโอกาสการเข้ารับงาน EPC ในโครงการของลูกค้าที่อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณายื่นประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งจะมีส่วนช่วยให Backlog แข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง

นายดิถดนัย สังขะรมย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า CV เป็นบริษัทพลังงานหมุนเวียนแบบครบวงจรที่ดำเนินธุรกิจตามทิศทางการพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั่วโลก ที่มุ่งเน้นผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งการเข้าระดมทุนในครั้งนี้ จะช่วยขยายฐานเงินทุนในการขยายธุรกิจ รวมถึงสร้างโอกาสการเติบโตรองรับนโยบายสนัสนุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน CV มีความโดดเด่นด้านการใช้เทคโนโลยีจากพลังงานหมุนเวียน และเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Steam thermal co-generation processจากปัจจุบันที่มีโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว (COD) จำนวน 4 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 26.2 เมกะวัตต์ และมีปริมาณขายไฟฟ้าตามสัญญารวม 23.6 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 โครงการ และโรงไฟฟ้าขยะ 1 โครงการ นอกจากนี้ ยังมีโครงการโรงคัดแยกและแปรรูปขยเพื่อพัฒนาเป็นเชื้อเพลิงขยะ (RDF) ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 1 โครงการ ขนาดกำลังผลิต 150 ตัน/วัน รวมทั้งเตรียมเข้าซื้อกิจการโครงการโรงไฟฟ้าแบบพลังงานความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง 1 โครงการ ขนาดกำลังผลิต 7.36 เมกะวัตต์ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มเข้ามในในครึ่งปีหลังของปี 2564 

ขณะที่จุดเด่นของ CV ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิศวกรรมพลังงานครบวงจร ครอบคลุมการออกแบบ ก่อสร้างโรงไฟฟ้า บริการเดินเครื่องและบำรุงรักษา รวมถึงการสนับสนุนธุรกิจหลักด้านการบริการจัดหาและแปรรูปเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าภายในกลุ่ม ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจมากว่า 15 ปี จึงมีองค์ความรู้ในงานด้านวิศวกรรม ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนบนพื้นฐานของการบริหารจัดการต้นทุนให้สามารถแข่งขันในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาวต่อไป