KUMWEL ส่งสัญญาณแนวโน้ม Q4/62 ดี


นายบุญศักดิ์ เกียรติจรูญเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (KUMWEL) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบป้องกันฟ้าผ่าและเตือนภัยฟ้าผ่าอย่างครบวงจ         ตามมาตรฐานสากล ภายใต้ตราสินค้า “Kumwell” เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 4/62 มีแนวโน้มดีขึ้น ากการทยอยลงทุนของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกโครงการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานมีความจำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์และระบบสัญญาณเตือนภัยฟ้าผ่า ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทในอนาคต

ล่าสุดบริษัทเตรียมรับรู้รายได้จากการส่งมอบสินค้าให้กับงานวางระบบโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) เฟสสองจากก่อนหน้านี้บริษัทรับรู้รายได้ในเฟสแรกแล้ว 3.5 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดมี         14 เฟส ระยะทางรวม 249 กิโลเมตร คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4/62 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ภายหลังการเปิดตัว "Kumwell Clinic Network" ศูนย์ตรวจสอบ วิเคราะห์ ปรับปรุงระบบป้องกันฟ้าผ่า ระบบต่อลงดิน ระบบป้องกันเสิร์จ ระบบตรวจจับ แจ้งเตือนภัยฟ้าผ่าและระบบป้องกันฟ้าผ่าอัจฉริยะอย่างครบวงจร และแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายแห่งแรกในจ.ระยอง เป็นที่เรียบร้อยและได้รับกระแสตอบรับที่ดี  ส่งผลให้บริษัทเตรียมวางแผนขยายตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ต่างจังหวัดเพิ่ม อาทิ ขอนแก่น ภูเก็ต กระบี่ ตรัง เชียงใหม่ สุราษฏร์ธานี  อุบลราชธานี นครราชสีมา  อุดรธานี และสงขลา คาดว่าจะสามารถทยอยเพิ่มจำนวนตัวแทนได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/62 เป็นต้นไป

พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมนำผลิตภัณฑ์ “ระบบ Smart Lightning Management System            ซึ่งเป็นนวัตกรรมระบบป้องกันฟ้าผ่าแบบอัจฉริยะ ไปจัดแสดงและนำเสนอข้อมูลในงานแสดงยุทโธปกรณ์      ประจำปี 62 (Defense and Security 2019) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 18-21 พ.ย.62 นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มภาคความมั่นคงของชาติ

“ งาน Defense and Security 2019 เป็นการจัดงานแสดงยุทโธปกรณ์ เปิดโอกาสให้กับผู้ผลิตทั้งไทยและต่างประเทศได้พบปะกับลูกค้าและผู้ใช้โดยตรง เพื่อส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางธุรกิจ อีกทั้งเป็นการเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม” นายบุญศักดิ์ กล่าว 

ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/62 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 107.6 ล้านบาท ลดลง 5.5 ล้านบาท หรือลดลง 4.86จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวมที่ 113.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.8 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.1 ล้านบาท 

สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 62  บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 326.90 ล้านบาท ลดลง 22.26 ล้านบาท หรือลดลง 6.37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวมที่ 349.16 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 21.13 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 48.44 ล้านบาท  

ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทปรับตัวลดลงจากปีก่อน เนื่องจากปริมาณยอดขายที่มาจากการส่งออกลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ประกอบกับบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการนำหุ้นสามัญเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เชื่อว่าผลประกอบการไตรมาส 4/62 จะเข้าสู่ภาวะปกติ

อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการปี 62 จะเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 469.72ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากต่างประเทศ19.5% และในประเทศ 74.7%  แบ่งเป็นลูกค้า กลุ่มหลัก ได้แก่ ภาคการไฟฟ้าและพลังงาน 26.2ภาคสิ่งปลูกสร้าง 29.4% ภาคอุตสาหกรรม 14.4%ภาคคมนาคม 3.5% ภาคการสื่อสารโทรคมนาคม1.0% และภาคความมั่นคงทางทหาร 0.1%