WP โชว์ผลงานQ2/64 บวกสวนกระแส กำไรพุ่งแตะ 24 ลบ.

WP โชว์ผลงานQ2/64 บวกสวนกระแส กำไรพุ่งแตะ 24 ลบ.

อานิสงส์เพิ่มจุดกระจายสินค้า-ขยายช่องทางขาย Export

เดินหน้าลุย“โซลาร์ รูฟท็อป”สร้างมูลค่าเพิ่ม หนุนผลงานโตยาว

 

บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) โชว์ศักยภาพสุดแกร่ง แม้ไวรัสโควิด-19 จะกระทบธุรกิจ แต่ยังทำผลงานไตรมาส 2/64 เป็นบวก โดยมีกำไรสุทธิ 24.41 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ  2,760 ล้านบาท  จากกลยุทธ์เพิ่มจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือน - ขยายช่องทางการขาย (Export) และรุกขยายกลุ่มลูกค้าที่มี Margin สูง  ด้าน “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” ประเมินครึ่งปีหลังธุรกิจสดใส หลังลุยโซลาร์ รูฟท็อป  พร้อมนำทัพลุยธุรกิจไม่ยั้ง ปั๊มผลงานเติบโตอย่างมีศักยภาพในระยะยาว 

 

นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์โดยมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพและศักยภาพภายในองค์กร เพื่อสร้างกำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน  โดยเพิ่มจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือน รวมถึงเน้นขยายช่องทางการขาย (Export) และขยายไปยังกลุ่มลูกค้าที่มี Margin สูง ส่งผลทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 เติบโตอยู่ในทิศทางบวกได้ แม้จะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19  โดยมีกำไรสุทธิ  24.41 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น  43.86 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 16.97 ล้านบาท  

 

สำหรับรายได้รวมเท่ากับ 2,760.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 216.26 ล้านบาท หรือ 8.50 % เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,543.95 ล้านบาท  ขณะที่รายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 2,702.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 196.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.85% อันเนื่องมาจากปริมาณการขายรวมของก๊าซปิโตรเลียมเหลวเพิ่มขึ้นจาก 159,918 ตัน เป็น 167,393 ตัน เพิ่มขึ้น 7,475 ตัน หรือคิดเป็น 4.67% และราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นกว่า 11% เนื่องจากบริษัทฯ สามารถเพิ่มยอดขายในกลุ่มอุตสาหกรรมได้ดีขึ้น โดยในกลุ่มนี้บริษัทฯ มีการให้บริการเพิ่มเติมในส่วนที่เหมาะสมกับที่ลูกค้าแต่ละรายต้องการ จึงทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น และพยายามลดการขายในส่วนที่มีกำไรขั้นต้นต่ำ อาทิเช่น สถานีบริการก๊าซ ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ โดยในครึ่งปีแรกของปี 2564 ส่วนแบ่งการตลาดของ แบรนด์ เวิล์ดแก๊สอยู่ที่อันดับ หรือคิดเป็น market share 18%

 

กำไรสุทธิQ2 ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมียอดขายเพิ่มขึ้น และราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯยังคงควบคุมรายจ่าย และตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลง  อีกทั้งบริษัทฯ สามารถรักษาอัตราการทำกำไรไว้ได้ เนื่องมาจากการบริหารงานอย่างยืดหยุ่น เสาะหาตลาดและลูกค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดมา ทำให้สามารถทำกำ ไรได้ดีแม้ว่าจะมีการระบาดอย่างหนักของสถานการณ์โควิด-19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของสถานการณ์โควิด-19 เช่นกันนางสาวชมกมลกล่าว

 

สำหรับแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง ประเมินว่าจะยังคงเติบโตในทิศทางบวกต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกตามความต้องการใช้ก๊าซ LPG ในภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นกลุ่มรายได้หลักของบริษัทฯ โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการขายอยู่ที่ 60% ของยอดขายรวมของบริษัทฯ และคาดว่าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นในอนาคต   ขณะเดียวกันยังรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์ รูฟท็อป) จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์  ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2564 และรับรู้รายได้เข้ามาทันที  

 

อย่างไรก็ตามกลุ่มบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจก๊าซ LPG ไปในภาคครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง  โดยเพิ่มจุดกระจายสินค้า  รวมถึงหาช่องทางในการส่งออกเพิ่มมากขึ้น  และมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆควบคู่กับการลดต้นทุนต่างๆ ที่ไม่จำเป็นลงเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจต่อไปได้ในระยะยาว