เอไอเอสและไมโครซอฟท์ประกาศจับมือพัฒนาบริการคลาวด์พลัง 5G

เอไอเอสและไมโครซอฟท์ประกาศจับมือพัฒนาบริการคลาวด์พลัง 5G
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั่วอาเซียน พร้อมปลดล็อคศักยภาพธุรกิจไทย 
มุ่งสู่ความสำเร็จในโลกดิจิทัล

● ความร่วมมือครั้งสำคัญ ร่วมสร้างนวัตกรรมคลาวด์ที่เหนือกว่าเพื่อยุค 5G หนุนธุรกิจในประเทศไทย
● เครือข่าย 5G ของเอไอเอส ผนึกกับแพลตฟอร์มคลาวด์ของไมโครซอฟท์ จะสร้างโอกาสรอบด้าน ให้ทุกคนได้เข้าถึงโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพครบครันและพร้อมใช้งาน
● พร้อมยกระดับความเชี่ยวชาญด้านคลาวด์ของเอไอเอสในเชิงลึก เพื่อสร้างผลลัพธ์ในเชิงบวกให้กับองค์กรไทยนับแสนราย


กรุงเทพฯ – 15 มิถุนายน 2564 – บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ผู้นำด้านบริการโทรคมนาคมและชีวิตดิจิทัล ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์อย่างเต็มรูปแบบเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย พร้อมเสริมสร้างนวัตกรรมให้ทุกองค์กรในเมืองไทย ด้วยพลังจากบริการคลาวด์ระดับโลกและเครือข่ายที่ดีที่สุดของไทย

ภายใต้ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาและนำเสนอบริการคลาวด์ที่สามารถตอบสนองความต้องการขององค์กรไทยได้ดีที่สุด ทั้งยังสนับสนุนการปฏิรูปธุรกิจด้วยดิจิทัลให้แก่องค์กรทั่วประเทศ ผ่านโครงการพัฒนาทักษะที่ครอบคลุมตั้งแต่ภายในองค์กรของเอไอเอส ไปจนถึงธุรกิจอื่นๆ ด้วย

มร. ฌอง-ฟิลลิปป์ คูร์ตัวส์ รองประธานกรรมการบริหาร และประธานฝ่ายขาย การตลาด และปฏิบัติการระดับโลก ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชัน กล่าวว่า “ภาคธุรกิจของประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงความคล่องแคล่วและความสามารถที่โดดเด่นในการฟื้นตัว ท่ามกลางสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงรอบด้าน เนื่องจากหลายองค์กรได้หันมาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เชิงดิจิทัลเพื่ออนาคตของพวกเขา เราจึงมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยคลาวด์ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของเรากับเอไอเอสจะเข้ามาต่อยอดและเติมเต็มศักยภาพของประเทศอย่างเต็มที่ ด้วยการผสมผสานทั้งความเชี่ยวชาญด้านการเชื่อมต่อ พร้อมด้วยระบบเครือข่ายที่ดีที่สุดในประเทศ และระบบคลาวด์ที่ได้รับความเชื่อมั่นในระดับโลกของไมโครซอฟท์ เพื่อทำให้ความฝันและแผนงานเชิงดิจิทัลของทุกองค์กรกลายเป็นความจริง”

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวอีกว่า “ในฐานะ Digital Life Service Provider ที่ยึดมั่นในเป้าหมายสำคัญคือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการเดินหน้าของประเทศ เราตื่นเต้นอย่างยิ่ง ที่ได้ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ในฐานะ Exclusive Strategic Partner ในประเทศไทยและเป็นอันดับต้นๆของภูมิภาคอาเซียน ในการเป็นดิจิทัลพาร์ทเนอร์ที่จะร่วมสนับสนุน ผลักดัน ทุกอุตสาหกรรมในการใช้ดิจิทัลเข้ามาขับเคลื่อน สร้างการเปลี่ยนแปลง และยกระดับการบริหารจัดการภายในองค์กร  ตอบสนองโลกที่พลิกโฉมอยู่ตลอดเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

“ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า เทคโนโลยี Cloud ระดับโลกจากไมโครซอฟท์ เมื่อมาบูรณาการกับเทคโนโลยีเครือข่ายจาก AIS 5G และ AIS Fibre ที่ดีที่สุด จะสามารถสร้างรูปแบบบริการใหม่ๆให้แก่องค์กรไทยบนต้นทุนที่เหมาะสม เป็นรากฐานในการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างปัญญาประดิษฐ์เข้ามาประยุกต์ใช้ในโมเดลธุรกิจแบบใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญที่สุดคือ ร่วมเป็นกำลังเสริมในการนำดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนภารกิจของประเทศในทุกสถานการณ์ ทั้งในแง่การรับมือภาวะวิกฤต และการสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน ในฐานะ Digital Transformation Accelerator นั่นเอง”

ไมโครซอฟท์และเอไอเอสได้ร่วมเป็นพันธมิตรกันอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 โดยเอไอเอส ในฐานะพันธมิตรคลาวด์ของไมโครซอฟท์ ได้ขับเคลื่อนความสำเร็จให้กับลูกค้าองค์กรมากมาย ด้วยสมรรถนะและประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด ด้วยนวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐานที่เหนือกว่า

สำหรับความร่วมมือที่ประกาศในครั้งนี้ ทั้งสองบริษัทจะเดินหน้าดำเนินโครงการทั้งหมด 3 ส่วน ดังนี้

● ผลักดันโซลูชั่นดิจิทัลให้เติบโต: ไมโครซอฟท์และเอไอเอสจะดำเนินงานร่วมกัน เพื่อกระตุ้นการใช้งานโซลูชั่นและบริการด้านคลาวด์ ข้อมูล ความปลอดภัยไซเบอร์ และ IoT ซึ่งในท้ายที่สุด จะทำให้องค์กรไทยทุกขนาดและทุกระดับสามารถเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นใจ และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย

 

● ยกระดับทักษะเชิงดิจิทัลให้กับมืออาชีพ: จากความเชี่ยวชาญและทรัพยากรที่ไม่มีใครเทียบของไมโครซอฟท์ เอไอเอสจะมอบโอกาสให้พนักงานในบริษัทได้รับการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีเชิงลึก (deep tech) ที่จะช่วยให้สามารถคว้าโอกาสด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยนอกจากหลักสูตรและสื่อการเรียนรู้ต่างๆ แล้ว พนักงานเอไอเอสยังจะได้รับใบรับรองความเชี่ยวชาญด้านทักษะที่เกี่ยวข้องกับระบบคลาวด์ อีกทั้งยังจะมีการจัดแฮกกาธอน (hackathon) พิเศษเพื่อนำไอเดียที่ฉายแววที่สุดออกมาสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกให้กับลูกค้าในการทำงานจริง นอกจากนี้ เอไอเอสยังจะนำความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเชิงลึกนี้ไปเผยแพร่ให้กับองค์กรนับแสนรายในเครือข่ายลูกค้าของบริษัทอีกด้วย

 

● มอบนวัตกรรมที่ดีที่สุดเพื่อธุรกิจ: ไมโครซอฟท์และเอไอเอสจะร่วมกันนำเสนอเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากทั้งสองฝ่าย เพื่อมอบโซลูชั่นที่ดีที่สุดด้วยศักยภาพจากทั้งเครือข่าย 5G ระบบคลาวด์ AI และ IoT โดยรวมถึงการผสมผสานผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถมอบประสิทธิภาพที่ดีที่สุดได้ ไม่ว่าสำหรับการทำงานบนคลาวด์หรือที่อุปกรณ์ปลายทาง (edge computing) การผสมผสานศักยภาพด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงเข้ากับเครือข่าย 5G จะช่วยตอบโจทย์ในจังหวะสำคัญของการทำงาน เช่นการใช้หุ่นยนต์เข้ามาสนับสนุนงานด้านการแพทย์ การยกระดับภาคการผลิต การสร้างระบบอาคารอัจฉริยะ หรือการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจค้าปลีก ระบบขนส่ง และโลจิสติกส์ต่างๆ โดยทั้งหมดนี้ นอกจากจะเป็นการขยายอีโคซิสเต็มดิจิทัลของเอไอเอสให้ครอบคลุมความต้องการของภาคธุรกิจได้มากกว่าที่เคยแล้ว ยังจะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าต่อไป ผ่านทางโซลูชั่นทั้งในรูปแบบสำเร็จรูปพร้อมใช้งาน และในแบบที่ปรับแต่งมาให้ตอบโจทย์ของแต่ละองค์กรโดยเฉพาะ

มร. ฌอง-ฟิลลิปป์ คูร์ตัวส์ เผยอีกว่า “การดำเนินงานทั้งสามส่วนที่เราได้กล่าวถึงอย่างคร่าวๆ ในวันนี้ เป็นเพียงก้าวแรกภายใต้ความร่วมมือระหว่างเรากับเอไอเอส ทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจจะได้เห็นความคืบหน้าอีกมากมายเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังจะเข้าไปเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของแพลตฟอร์ม AIS TheStartUp เพื่อช่วยสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยในการก้าวสู่ความสำเร็จอีกด้วย”

“ความร่วมมือของ AIS และ ไมโครซอฟท์ ในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความมั่นคงของ Digital Infrastructure ในระดับประเทศ อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จ และประโยชน์อีกมากมายให้แก่ภาคธุรกิจต่างๆ ในการทำ Digital Transformation ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ถือได้ว่าเป็นอีกความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับประเทศอย่างยั่งยืนที่กำลังขับเคลื่อนด้วยเศรษฐกิจดิจิทัล โดยความแข็งแกร่งทั้งจาก AIS และ ไมโครซอฟท์” นายสมชัย กล่าวทิ้งท้าย