สรรพากรขยายเวลายื่นแบบภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายและภาษีมูลค่าเพิ่ม ผ่านอินเทอร์เน็ต ช่วยผู้ประกอบการสู้โควิด

กระทรวงการคลังออกประกาศขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สำหรับเดือนกรกฎาคม 2564 ขยายออกไปเป็นภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 และการยื่นแบบในเดือนสิงหาคม 2564 ขยายออกไปเป็นภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เพื่อสนับสนุนการทำธุรกรรมทางภาษีที่บ้าน TAX from Home ช่วยบรรเทาและเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ระลอกใหม่

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า “การขยายเวลายื่นแบบฯ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในครั้งนี้เป็นการสนับสนุนการทำธุรกรรมภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์จากที่บ้านหรือ Tax from Home ช่วยลดความแออัดและความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งช่วยเพิ่มสภาพคล่องในมือผู้ประกอบการให้มีมากขึ้นและนานขึ้น โดยไม่ได้กระทบการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังต้องบริหารจัดการกระแสเงินสดเพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาการชำระภาษีที่เลื่อนออกไป”

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ที่ผ่านมากระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากรได้ขยายเวลาการยื่นแบบฯ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด. 1 ภ.ง.ด. 2 ภ.ง.ด. 3 ภ.ง.ด. 53 และ ภ.ง.ด. 54) และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. 30 และ ภ.พ. 36) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ถึงวันสุดท้ายของเดือนที่ต้องยื่นแบบฯ โดยให้เริ่มขยายเวลาสำหรับการยื่นแบบฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ถึงเดือนมิถุนายน 2564 สำหรับการขยายกำหนดเวลา การยื่นแบบฯ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในครั้งนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. การยื่นแบบและชำระภาษีในเดือนกรกฎาคม 2564 จากกำหนดเดิมที่ต้องยื่นภายในวันที่ 15 หรือ 23 กรกฎาคม 2564 ขยายออกไปเป็นภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2564  

2. การยื่นแบบและชำระภาษีในเดือนสิงหาคม ๒๕๖๔ จากกำหนดเดิมที่ต้องยื่นภายในวันที่ 15 หรือ 23 สิงหาคม 2564 ขยายออกไปเป็นภายในวันที่ 31 สิงหาคม  2564”

 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวสรุปว่า “ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากรได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการผ่านการทำธุรกรรมภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์จากที่บ้านหรือ Tax from Home ซึ่งทำให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นและนานขึ้นกว่า 280,000 ล้านบาท และช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ได้เป็นอย่างดี เช่น การขยายเวลายื่นแบบฯ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สำหรับการขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบฯ ในครั้งนี้เป็นการดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเว้นระยะห่าง หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ตามมาตรการของภาครัฐ และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)”