“ไอร่า” ไตรมาสแรกกำไรพุ่งยกระดับบริการสู่ดิจิทัล

กลุ่มไอร่า โตไม่หยุดไตรมาสแรกปี 64 กำไรสุทธิพุ่ง 37 ล้านบาท เหตุจากยุทธศาสตร์สร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทลูก พร้อมใช้กลยุทธ์ผนึกกำลังให้บริการแบบ One Stop service ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มส่งผลให้บริษัทลูก บริษัทร่วมมีกำไรต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี พร้อมยกระดับบริการไอร่าแอนด์ไอฟุล เป็นดิจิทัลเต็มตัวตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่        

นางนลินี  งามเศรษฐมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจไอร่าแคปปิตอล  เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2564 ว่า แม้การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจแต่ทั้งกลุ่มบริษัทไอร่า ยังมีการเติบโตและขยายตัวต่อเนื่อง โดยงบการเงินรวม บริษัทมีกำไรสุทธิ 37 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ ซึ่งผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นนี้เป็นผลจากยุทธศาสตร์สร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทลูก พร้อมกับการดำเนินกลยุทธ์ผนึกกำลังในกลุ่มบริษัทเพื่อให้บริการแบบ One Stop service  ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม

ทั้งนี้ในไตรมาสแรกนี้  บริษัทมีรายได้รวม 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ18  จากงวดเดียวกันของปีก่อนแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์173  ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 , รายได้จากธุรกิจลีสซิ่ง ซึ่งมีรายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าซื้อและสัญญาเช่าเงินทุน 20  ล้านบาท  เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 , รายได้จากการให้เช่าและบริการ  47  ล้านบาท  ประกอบด้วยรายได้ค่าเช่าจากสัญญาเช่าดำเนินงานของธุรกิจลีสซิ่ง 16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14   และรายได้ที่เป็นค่าเช่าของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีก 31  ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่รับรู้ค่าเช่าพื้นที่เพียงล้านกว่าบาทเท่านั้น  นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากธุรกิจแฟคตอริ่ง อีก 53 ล้านบาท    

ขณะที่ผลการดำเนินงานของ บมจไอร่าแอนด์ ไอฟุล ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับบริษัทสินเชื่อส่วนบุคคลในประเทศญี่ปุ่น   มีการขยายตัวและสามารถทำกำไรได้ตามแผนงานที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี ทั้งที่ตลาดสินเชื่อบุคคลมีแนวโน้มลดลงจากการระบาดของโควิด19 โดยบริษัทมีการปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจที่มุ่งพัฒนาบริการในรูปแบบดิจิทัลเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่มีพฤติกรรมการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์มากขึ้น   พร้อมยกระดับมาตรฐานการให้บริการสู่Moblie Platform  อย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งจากมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิดในการพักชำระหนี้และการปรับปรุงพอร์ตลูกหนี้ ทำให้ยอดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ลดลงและปี 2564 ก็ยังมีแนวโน้มลดลงไปอีก เนื่องจากบริษัทมีการทบทวนการประเมินคะแนนเครดิตที่พิจารณาจากประวัติการชำระหนี้ ทำให้พอร์ตของลูกหนี้ที่ดีมีเพิ่มมากขึ้น

ปัจจุบัน บมจไอร่าแอนด์ไอฟุล  มีฐานลูกค้าประมาณ  500,000 รายโดยบริษัทยังคงมีศักยภาพในการขยายฐานลูกค้าในปี 2564 เพิ่มมากขึ้นได้อีกจากฐานการเงินที่แข็งแกร่ง