ครม.อนุมัติ ลดหย่อนภาษีได้ กรณีบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนให้ภาคเอกชนร่วมบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่อจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพและมีปริมาณเพียงพอ เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ประชาชน ทั้งในสถานการณ์ปกติ และในสถานการณ์ฉุกเฉิน นำไปสู่ความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากรมีความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการสนับสนุนการวิจัย การพัฒนา การผลิตและการกระจายวัคซีนที่มีคุณภาพและมีปริมาณเพียงพอ เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ประชาชนในประเทศ จึงได้เสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) .. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคเพื่อจัดหาวัคซีนเมื่อวันที่พฤษภาคม 2564 
เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้ภาคเอกชนร่วมบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่แสวงหากำไรและมีภารกิจในการบริหารจัดการให้ประเทศมีความมั่นคงด้านวัคซีนอย่างยั่งยืน โดยมีหลักการดังนี้

1. บุคคลธรรมดาที่บริจาคเงินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติสามารถนำมาหักเป็นค่าลดหย่อนได้เท่าจำนวนที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคตามมาตรา 47 (7) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อนอื่น  แล้ว

2. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติสามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายได้เท่าจำนวนที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ ตามมาตรา 65 ตรี (3) (แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสองของกำไรสุทธิ

ทั้งนี้ ผู้ที่บริจาคให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ตาม 1 และ 2  จะต้องบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ( e – Donation) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566

3. ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่บริจาคทรัพย์สินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ



ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวสรุปว่า กรมสรรพากรหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามาตรการภาษีข้างต้นจะช่วยจูงใจให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการวิจัย การพัฒนา การผลิต และการกระจายวัคซีนที่มีคุณภาพและมีปริมาณเพียงพอทั้งในสถานการณ์ปกติและในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ประชาชน อันจะนำไปสู่ความมั่นคงของประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  เวลานี้ ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมใจในการฟันฝ่าวิกฤติสถานการณ์โควิด-19 นี้ไปให้ได้ เพื่อคนไทยทุกคน