ปตท.สผ. โชว์กำไรQ1 แตะ 376 ล้านUSD

ปตท.สผ. เผยผลประกอบการไตรมาส 1ปี 2564 ปรับตัวดีขึ้น โดยมีกำไรสุทธิ 376 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากราคาขายผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมถึงการบันทึกรายการพิเศษทางบัญชีจากการลงทุนในโครงการโอมาน แปลง 61 เตรียมปรับเพิ่มเป้าปริมาณการขายอีกครั้ง หลังการเข้าซื้อสัดส่วนในแปลง 61 เสร็จสิ้น และเริ่มการผลิตก๊าซฯโครงการมาเลเซีย แปลงเอช ได้เร็วกว่าที่คาด

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า ในไตรมาส 1 ปี 2564 ปตท.สผ. มีรายได้รวม 1,779 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 54,034 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับ 1,348 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 40,494 ล้านบาท) ในไตรมาส 4 ปี 2563 โดยหลักมาจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,391 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 42,136  ล้านบาท) ซึ่งเป็นผลมาจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่สูงขึ้นร้อยละ 10 มาอยู่ที่ 40.38 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบเนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในไตรมาสแรกนี้ บริษัทมีกำไรจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ (Non-recurring item) เพิ่มขึ้น จากการซื้อสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 20 ในโครงการโอมาน แปลง 61 ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม จำนวน 350 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 10,772 ล้านบาท) ในไตรมาส นี้ บริษัทมีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ย 382,877บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสที่แล้วซึ่งมีปริมาณ 381,285 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน 


สำหรับค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส อยู่ที่ 1,213 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 36,764 ล้านบาทไม่เปลี่ยนแปลงจากตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาแม้ว่าในไตรมาสนี้ บริษัทจะมีรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) และค่าใช้จ่ายในการบริหาร (General & Administrative Expenses) ลดลง แต่บริษัทมีการบันทึกรายจ่ายที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินงานปกติจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์โครงการสำรวจในประเทศบราซิล จำนวน 145 ล้านดอลลาร์ สรอ. และผลขาดทุนจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันที่ 107 ล้านดอลลาร์ สรอ.  

 

จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ ปตท.สผ. มีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ จำนวน 376 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 11,534 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 364 เมื่อเทียบกับ 81 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 2,433 ล้านบาท) ในไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา และมีอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา ที่ร้อยล 74 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) ลงมาอยู่ที่ 27.96 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ 


ผลการดำเนินงานของ ปตท.สผปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากราคาขายที่เริ่มฟื้นตัวตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก และยังมีความสำเร็จหลายประการที่เกิดขึ้นในไตรมาสนี้ ทั้งการซื้อสัดส่วนการลงทุนในแปลง 61 ประเทศโอมานที่เสร็จสมบูรณ์ และการเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติในโครงการมาเลเซีย แปลงเอช เร็วกว่าที่ตั้งเป้าไว้ทำให้สามารถเพิ่มปริมาณการขายได้ทันที และส่งผลให้สามารถปรับเพิ่มเป้าหมายการขายในปีนี้ขึ้นเป็น 405,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ในด้านการสำรวจปิโตรเลียม เราค้นพบแหล่งปิโตรเลียมใหม่ ๆ จากการเจาะหลุมสำรวจในมาเลเซียหลายแปลง เช่น หลุมโดกง-1 ในโครงการซาราวัก เอสเค 417 และหลุมซีรุง-1 ในโครงการซาราวัก เอสเค 405บี โดยยังมีแผนการเจาะสำรวจเพื่อค้นหาแหล่งน้ำมันและก๊าซฯ ในแปลงอื่น ๆ ด้วย ส่วนแหล่งลัง เลอบาห์ ในโครงการซาราวัก เอสเค 410บี ซึ่งเราค้นพบก๊าซธรรมชาติปริมาณสูงในปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อทำการเจาะหลุมประเมินผลในปีนี้ พบว่ามีปริมาณก๊าซฯ มากกว่าที่คาดไว้ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติแหล่งใหญ่ที่สุดเท่าที่บริษัทเคยสำรวจพบ ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมให้กับ ปตท.สผ. ในอนาคตแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างฐานการลงทุนของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีกด้วย” นายพงศธร กล่าว