บมจ.เซนต์เมด ผู้ดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำระดับโลก เดินหน้าเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ

บมจ.เซนต์เมด (SMD) ผู้ดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำระดับโลก เดินหน้าเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) มุ่งสู่การเป็นผู้นำการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์เฉพาะทางด้านระบบการหายใจและช่วยชีวิต พร้อมก้าวสู่ความเลิศด้านการจัดจำหน่ายและบริการเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยดูแลคนไทยให้ปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดี รองรับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและสังคมแห่งการดูแลสุขภาพ



ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชนหรือ SMDผู้ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยจะเสนอขายหุ้น IPO เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินและผลักดันการดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่งยืนจากวิสัยทัศน์ มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์เฉพาะทางด้านระบบการหายใจและช่วยชีวิตเพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศด้านตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยนำประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจมานานกว่า 20 ปี และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่มีความทันสมัยได้มาตรฐานสากล มาช่วยดูแลคนไทยให้ปลอดภัยและมีสุขภาพดี รองรับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและสังคมแห่งการดูแลสุขภาพ 

นอกจากนี้ การได้รับความไว้วางใจจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำระดับโลกกว่า 30 ราย ยังช่วยให้ SMD มีขีดความสามารถการแข่งขันที่ดีเหนือคู่แข่งและสนับสนุนแผนงานการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่องรับฐานลูกค้าในอนาคต รวมถึงการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ จากทีมบริการหลังการขายที่มีความชำนาญและความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ต่อยอดสู่การดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งแบ่งออกเป็น ส่วนได้แก่ 

1. การให้บริการให้เช่าเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อสร้างรายได้ประจำและสม่ำเสมอ
2. การร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งดำเนินโครงการศูนย์ตรวจการนอนหลับเนื่องจากปัจจุบันคนไทยได้ตระหนักถึงอันตรายจากการนอนกรนและหยุดหายใในขณะนอนหลับมากขึ้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMD กล่าวว่า ปัจจุบัน SMD ดำเนินธุรกิจใน 2 ประเภทหลักประกอบด้วย

1.) ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายสินค้า โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ ที่แบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่

1.กลุ่มสินค้าด้านเวชบำบัดวิกฤต เป็นกลุ่มเครื่องมือแพทย์ที่ใช้สำหรับผู้ป่วยในหออภิบาลผู้ป่วยหนักและห้องฉุกเฉิน เช่น เครื่องช่วยปั๊มหัวใจระบบอัตโนมัติ เครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบเออีดีและแบบใช้ในโรงพยาบาล เครื่องเฝ้าติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพพร้อมระบบศูนย์กลางและระบบเทเลเมดิซีน กล้องส่องหลอดลมเพื่อใส่ท่อช่วยหายใจระบบวีดีทัศน์เครื่องวัดปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เครื่องตรวจอวัยวะภายในด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงชนิดใช้ข้างเตียงผู้ป่วย และชุดแขวนอุปกรณ์ทางการแพทย์

2.กลุ่มสินค้าด้านการช่วยหายใจและเวชศาสตร์การนอนหลับ เป็นกลุ่มเครื่องมือแพทย์สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจและการนอนหลับเช่น เครื่องตรวจวิเคราะห์ความผิดปกติขณะนอนหลับ เครื่องเฝ้าติดตามความดันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดขณะนอนหลับเครื่องช่วยหายใจซีแพพสำหรับผู้ป่วยนอนกรนและหยุดหายใจขณะนอนหลับ เครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมปริมาตรและความดันสำหรับผู้ป่วยหนัก เครื่องให้ออกซิเจนด้วยอัตราการไหลสูง เครื่องสั่นสะเทือนผนังทรวงอกเพื่อไล่เสมหะออกจากถุงลม กล้องส่องทางเดินหายใจระบบวีดีทัศน์ และเครื่องฟอกอากาศบริสุทธิ์ ระดับ ISO 1

3.กลุ่มสินค้าด้านหทัยวิทยา เป็นกลุ่มเครื่องมือแพทย์ที่ใช้สำหรับตรวจวินิจฉัยและรักษาความผิดปกติการทำงานของหัวใจ เช่น เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 12 ลีด เครื่องทดสอบสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกายเครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจชนิดพกพาติดตัว 24 ชั่วโมง เครื่องวิเคราะห์การใช้พลังงานขณะออกกำลังกาย
เครื่องเฝ้าติดตามการทำงานของหัวใจขณะออกกำลังกายแบบไร้สายพร้อมชุดออกกำลังกายเพื่อการฟื้นฟูหัวใจ และเครื่องวัดอัตราการไหลของเลือดในเส้นเลือดขณะทำการผ่าตัดหัวใจ

4.กลุ่มเครื่องมือแพทย์ทั่วไป เป็นกลุ่มเครื่องมือแพทย์สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่นโคมไฟผ่าตัด เตียงผ่าตัด โคมไฟทำหัตถการเล็ก เครื่องส่องตรวจตา หู คอ จมูก ชุดใส่ท่อช่วยหายใจ เตียงผู้ป่วย รถเข็นทางการแพทย์ 
รถเข็นกู้ชีพผู้ป่วยฉุกเฉิน และเครื่องวัดอุณหภูมิบริเวณหน้าผาก 

5.กลุ่มสินค้าสมาร์ทฮอสพิทอล เป็นกลุ่มเครื่องมือแพทย์ที่ทำให้โรงพยาบาลดูทันสมัย และอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในการปฏิบัติงานให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ลดการรายงานผลและจดบันทึกด้วยกระดาษ อีกทั้งยังเชื่อมต่อข้อมูลเครื่องมือแพทย์ดังกล่าวเข้ากับระบบ Hospital Information System 
หรือระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ เครื่องวิเคราะห์ดัชนีมวลกาย เครื่องวัดความดันโลหิตที่เชื่อมต่อกับเครื่องวัดดัชนีมวลกาย และ 6.กลุ่มอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ประกอบการใช้งานเครื่องมือแพทย์ใน กลุ่มสินค้าดังกล่าวข้างต้น 

และ 2.) กลุ่มธุรกิจให้บริการ โดยให้บริการซ่อมบำรุงเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์หลังการขาย และให้บริการเช่าเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงบริการตรวจการนอนหลับเพื่อสร้างความมั่นคงของรายได้ในระยะยาว

นายกำพล ชัยสุภัคสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าฝ่ายบัญชีและการเงิน SMD กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในช่วง ปีที่ผ่านมา (2561  2563บริษัทฯ มีรายได้มีจากการขายและบริการรวม 506.03 ล้านบาท 618.63 ล้านบาท และ 660.94 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 14.29โดยมีสัดส่วนรายได้หลักจากกลุ่มสินค้าด้านเวชบำบัดวิกฤต คิดเป็นสัดส่วน 40.20% ซึ่งมีฐานลูกค้าหลักคือ กลุ่มโรงพยาบาลรัฐคิดเป็น 71.07%จากความต้องอุปกรณ์การแพทย์ของภาครัฐที่เพิ่มขี้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กำไรสุทธิปี 2561-2563 ทำได้ 30.52ล้านบาท 60.44 ล้านบาท และ 77.75 ล้านบาท ตามลำดับ หลังประสบความสำเร็จในการขายสินค้ากลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงได้มากขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตอย่างโดดเด่น



นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า SMD มีศักยภาพเติบโตสูงจากข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขัน จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจมายาวนานได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ชั้นนำระดับโลก รวมถึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเป็นโอกาสรุขยายธุรกิจอย่างเต็มที่ ซึ่งสอดรับแผนลงทุนกลุ่มโรงพยาบาลรัฐและเอกชนเพื่อเพิ่มความสามารถการให้บริการทางการแพทย์รองรับผู้ป่วยและผู้สูงอายุในประเทศเพิ่มขึ้นทำให้ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ในช่วงปี 2564-2565 ที่คาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ย  6.5% ต่อปีประกอบกับการใช้จ่ายภาครัฐด้าน               สาธารณุสขที่เพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการทางการแพทย์ รองรับนโยบายผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ(Medical Hub) วมทั้งการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์หรือเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) อีกด้วย

ปัจจุบัน SMD มีทุนจดทะเบียนจำนวน 107 ล้านบาท แบ่งเป็น 214 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 80 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 54  ล้านหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ  25.23 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปดำเนินโครงการศูนย์ตรวจการนอนหลับและลงทุนในเครื่องมือแพทย์ให้เช่า ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนดำเนินกิจการแลชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งคาดว่าจะนำ SMD จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในปี 2564 นี้