GUNKUL ปลื้ม ทริสฯเพิ่มเครดิตองค์กรเป็น BBB+ อานิสงส์ผลตอบแทนโรงไฟฟ้าดีต่อเนื่อง


 บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เผย ทริสเรทติ้ง ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตเป็น BBB+ จาก BBB และเพิ่มเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันเป็น BBB จาก BBB-  สะท้อนถึงกระแสเงินสดที่เพิ่มสูงขึ้นจากผลตอบแทนของโรงไฟฟ้า หนุน EBITDAพุ่ง3 เท่าแตะ 3.7 พันล้านบาทในช่วง 5 ปี  ขณะที่ความสามารถชำระหนี้คล่องตัว  พร้อมทั้งมีแผนลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ต่อเนื่อง  ฟาก“ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย” ระบุ การปรับเรทติ้งครั้งนี้ ส่งผลดีต่อความน่าเชื่อถือของกลุ่มบริษัทฯ และช่วยลดภาระต้นทุนดอกเบี้ยได้เป็นอย่างดี  

ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ปรับเพิ่มเครดิตองค์กรเป็นระดับ BBB+ จากเดิมที่ระดับ BBB และเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันเป็นระดับ BBB จากเดิมที่ระดับ BBB-

จากการที่ ทริสเรทติ้ง ปรับเพิ่มเครดิตดังกล่าว สะท้อนถึงกระแสเงินสดของบริษัทฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาหลังจากที่โครงการโรงไฟฟ้าของบริษัทเริ่มสร้างผลตอบแทน โดยบริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ซึ่งไม่รวมรายการพิเศษเพิ่มขึ้น 3 เท่าเป็น 3.7 พันล้านบาทในปี 2563 จาก 1.2 พันล้านบาทในปี 2559  

ประกอบกับความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทฯ และอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนก็อยู่ในระดับที่ดี แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ในธุรกิจอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า ตลอดจนประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร หรือ บูรณาการในแนวดิ่ง (Vertical Integration) และกระแสเงินสดที่คาดการณ์ได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้า

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงมีการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเวียดนามที่อัตราการเติบโตและความต้องการไฟฟ้ายังคงแข็งแกร่ง

ด้านสภาพคล่องของบริษัทยังคงแข็งแรงจากกระแสเงินสดที่เข้ามาอย่างต่อเนี่อง รวมทั้งวงเงินกู้ต่างๆจากสถาบันการเงินหลายแห่ง ที่สามารถรองรับภาระหนี้รวมทั้งการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี

" การปรับเรทติ้งจากทริสเรทติ้งในครั้งนี้   จะส่งผลดีต่อภาพรวมและความน่าเชื่อถือของกลุ่มบริษัทฯ ในการจัดหาเงินกู้ผ่านตราสารหนี้ประเภทหุ้นกู้  และทำให้อัตราดอกเบี้ยมีต้นทุนลดลง   และทำให้นักลงทุนและผู้ถือหุ้นมีความมั่นใจในศักยภาพของกลุ่มบริษัท GUNKUL มากยิ่งขึ้น" ดร.สมบูรณ์กล่าว