คปภ. ยกทัพลงพื้นที่เมืองย่าโม เปิดโครงการ “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับ พ.ร.บ.”

คปภ.จัดคาราวานรณรงค์และสร้างความรู้ความเข้าใจตามกรมธรรม์ประกันภัยรถ ..ให้ชาวนครราชสีมา พร้อมขับเคลื่อน “ปากช่องโมเดล” เป็นต้นแบบกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้เจ้าของรถ ตระหนักและเห็นความสำคัญของการจัดทำประกันภัยรถ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ดรสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับ ...” มูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถาน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ.. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม .. 2551 หรือ ประกันภัย ..รวมถึงบทบาทหน้าที่และภารกิจของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย โดยมีนายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยผู้บริหาร สำนักงาน คปภหัวหน้าส่วนภาครัฐ ผู้บริหารกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ผู้บริหารกองทุนประกันชีวิต กองทุนประกันวินาศภัย บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันภัย นายหน้าประกันภัย และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานกว่า 300 คน 

   

เลขาธิการ คปภเปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ได้รับรายงานทำให้ทราบว่า จังหวัดนครราชสีมา มีจำนวนรถที่จดทะเบียนสะสมกว่า 1.42 ล้านคัน (ข้อมูล  วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563) ในขณะที่รถที่ทำประกันภัย ..มีเพียง 0.76 ล้านคันหรือประมาณ 53.52 % โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่มีการจดทะเบียนสะสมกว่า 0.73 ล้านคัน แต่มีรถที่จัดให้มีการประกันภัย ..มีเพียง 0.41 ล้านคัน หรือประมาณ 56.16 % ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายังมีรถที่อยู่นอกระบบการประกันภัย ..และมีเจ้าของรถอีกจำนวนมากที่ยังไม่เข้าใจและไม่เห็นความสำคัญของการมีประกันภัย ..หรือการประกันภัยรถภาคบังคับ ดังนั้น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนรณรงค์ส่งเสริมการจัดทำประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ..2535 แก้ไขเพิ่มเติม .. 2551 อย่างเป็นรูปธรรม และเพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้เจ้าของรถได้รับทราบถึงประโยชน์การจัดทำประกันภัย ..สำนักงาน คปภจึงได้จัดให้มีกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการจัดทำประกันภัย ..ผ่านโครงการ “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับ ...” โดยมีกิจกรรมการเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในหัวข้อเรื่อง “ประโยชน์ของการประกันภัย ..และบทบาทหน้าที่ของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย” พร้อมปล่อยขบวนคาราวานรถจักรยานยนต์กว่า 100 คัน และจัดกิจกรรมการออกบูธประชาสัมพันธ์ของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย และหน่วยงานเครือข่าย ประกอบด้วย กองทุนประกันชีวิต กองทุนประกันวินาศภัย สมาคมตัวแทนและที่ปรึกษาทางการเงินจังหวัดนครราชสีมา ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขานครราชสีมา บริษัทประกันภัย และนายหน้าประกันภัย พร้อมรับฟังสภาพปัญหา รวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชนและภาคธุรกิจประกันภัยในพื้นที่ เพื่อศึกษาแนวทางและนำไปปรับปรุงการรณรงค์ส่งเสริมการทำประกันภัยรถตาม... ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถ รวมถึงให้คำแนะนำปรึกษาด้านการประกันภัยกับ “คลินิกกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย” และการจัดมินิคอนเสิร์ตและกิจกรรมสันทนาการเล่นเกมแจกของรางวัลต่าง อีกมากมาย 


 เลขาธิการ คปภกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ในวันนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากสำนักงาน คปภภาค 4 (นครราชสีมาได้จัดทำโครงการ “ปากช่องโมเดล” เพื่อสำรวจข้อมูลและความคิดเห็นของประชาชนชาวอำเภอปากช่อง เกี่ยวกับปัญหาและสาเหตุของการไม่จัดทำประกันภัย ..โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ซึ่งพบว่า ปัญหาเกิดจากการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ด้านการประกันภัย ..ยังไม่ทั่วถึง และประชาชนยังรับทราบข้อมูลไม่เพียงพอ ดังนั้น สำนักงาน คปภจึงได้เลือกอำเภอปากช่องเป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับ ...” เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการรณรงค์ส่งเสริมประชาสัมพันธ์อย่างเป็นรูปธรรม และได้กำหนดจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ครั้งต่อไป ในวันที่ 23 – 24 ธันวาคม 2563  จังหวัดพิษณุโลก 


นอกจากนี้ สำนักงาน คปภยังมีภารกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การคุ้มครองดูแลผู้ประสบภัยจากรถ ให้ได้รับการช่วยเหลือและเยียวยาจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย กรณีประสบภัยจากรถที่ไม่มีการจัดทำประกันภัย ..หรือกรณีที่รถมีการประกันภัย ..แต่ไม่อาจใช้สิทธิได้ ผ่านการจ่ายเงินค่าเสียหายเบื้องต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยลดภาระทางการเงินแก่ผู้ประสบภัยจากรถแล้ว ยังลดภาระหรือก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้องทั้งระบบ ตั้งแต่ครอบครัวผู้ประสบภัย ผู้ขับขี่และครอบครัว สถานพยาบาล หรือแม้แต่นายจ้างหรือเจ้าหนี้ของผู้ประสบภัย ซึ่งท้ายที่สุดจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวม ทั้งในเชิงลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจและลดปัญหาสังคมที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ผู้ประสบภัยจากรถไม่ได้รับการเยียวยาได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็ว โดยวงเงินค่าเสียหายเบื้องต้น แบ่งออกเป็น กรณีบาดเจ็บ จะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 30,000 บาท หรือกรณีเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยะหรือทุพพลภาพถาวรตามกำหนดไว้ จะได้รับเงินชดเชย จำนวน 35,000 บาท และหากกรณีได้รับบาดเจ็บและต่อมาสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพถาวรหรือเสียชีวิต จะได้รับเงินชดเชยสูงสุดไม่เกิน 65,000 บาท แต่อย่างไรก็ตามเมื่อกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ได้จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัยจากรถแล้ว อีกหน้าที่หนึ่งของกองทุนที่ต้องดำเนินการ คือ การไล่เบี้ยเรียกคืนค่าเสียหายเบื้องต้นพร้อมเงินเพิ่มร้อยละ 20 จากเจ้าของรถที่ฝ่าฝืนไม่จัดให้มีการประกันภัย ..นอกจากนี้เจ้าของที่ฝ่าฝืนไม่ทำประกันภัย ..จะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และผู้ที่ใช้รถคันที่ไม่ทำประกันภัย ..จะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท เช่นเดียวกัน


ทั้งนี้ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ .. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม .. 2551 มีเจตนารมณ์เพื่อให้ผู้ประสบภัยจากรถทุกคนได้รับการช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างทันท่วงที และเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงให้กับประชาชนผู้ใช้รถได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น สำนักงาน คปภจึงได้มีการปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย..ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ในส่วนของกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ปรับความคุ้มครองสูงสุด จากเดิม 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท กรณีสูญเสียอวัยวะ จากเดิม 200,000 - 300,000 บาท เป็น 200,000 – 500,000 บาท 

ด้านนายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวด้วยว่า ขอขอบคุณสำนักงาน คปภที่คัดเลือกจังหวัดนครราชสีมาเป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรมโครงการ “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับ ...” ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักให้พี่น้องประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ได้รับทราบถึงสิทธิ หน้าที่ และความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ.. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม .. 2551 รวมถึงบทบาทหน้าที่ของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย เพื่อนำไปใช้บริหารความเสี่ยงในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง และเป็นธรรม


สำนักงาน คปภมีความห่วงใยประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะใกล้ถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564  ซึ่งจะมีประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนบ่อยครั้ง จึงขอฝากมายังประชาชนควรใช้ความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น และที่สำคัญอย่าลืมตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย ...) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและกรมธรรม์ประกันภัยอื่น  ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง  ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลประกันภัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภกล่าวในตอนท้าย