CIVIL เทสัญญารถไฟเร็วสูง 9.7 พันล้าน หวั่นต้นทุนบานปลาย

CIVIL ทิ้งบิ๊กโปรเจกต์ สละสิทธิ์เซ็นสัญญารถไฟความเร็วสูงโครงการ กรุงเทพฯ – หนองคาย "บ้านไผ่-พระแก้ว" มูลค่า 9,700 ล้านบาท ชี้เงื่อนไขเปลี่ยน-พื้นที่อ่อนไหว เสี่ยงกระทบต้นทุน

บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ตัดสินใจครั้งสำคัญ ประกาศต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะไม่เข้าทำสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ – หนองคาย สัญญาที่ 4-5 (ช่วงบ้านไผ่ – พระแก้ว) มูลค่าโครงการประมาณ 9,700 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยให้เหตุผลว่าเงื่อนไขและขั้นตอนการทำงานเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ประกอบกับพื้นที่ก่อสร้างมีความอ่อนไหวทางวัฒนธรรมซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนและระยะเวลาดำเนินงาน

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงการตัดสินใจสละสิทธิ์การเข้าทำสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูง สัญญา 4-5 (บ้านไผ่ – พระแก้ว) แม้จะเป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ดำเนินโครงการก็ตาม

ในเอกสารชี้แจงระบุว่า "สาเหตุสำคัญเกิดจากการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข และขั้นตอนการทำงานที่แตกต่างจากข้อกำหนดเดิมตามเอกสารข้อเสนอประกวดราคา" ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้บริษัทฯ ต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงในการดำเนินงานอย่างรอบคอบ

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่ง "มีความอ่อนไหวทางแหล่งวัฒนธรรมเป็นมรดกโลก" ปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อการวางแผน การควบคุมต้นทุน และอาจทำให้มูลค่าการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเกินกว่าเงื่อนไขที่ตกลงไว้ในสัญญา ซึ่งจะกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทในภาพรวมได้

อย่างไรก็ตาม CIVIL ยังคงยืนยันถึงความพร้อมและศักยภาพในการดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศ โดยอ้างอิงถึงผลงานที่ผ่านมา เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูง สัญญา 2-1 (สีคิ้ว – กุดจิก) มูลค่า 2,842 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ที่สามารถส่งมอบงานได้สำเร็จตามกำหนดเวลา และปัจจุบันยังคงดำเนินงานในโครงการรถไฟความเร็วสูง สัญญา 4-7 (สระบุรี-แก่งคอย) มูลค่า 8,727 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างการก่อสร้างและทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน บริษัทฯ ได้ย้ำถึงความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมถึงมีโรงงานผลิตวัสดุคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากพื้นที่ก่อสร้างเพียง 100 กิโลเมตร สามารถรองรับการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในตอนท้ายของแถลงการณ์ CIVIL ได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงในระยะที่ 2 (ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย) และโครงการรถไฟทางคู่อื่นๆ ในอนาคต เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป