ผถห. UPA อนุมัติเพิ่มทุน 4 พันล้านหุ้น ระดมเงินกว่า 600 ลบ. เดินหน้าขยายธุรกิจ


 

ผู้ถือหุ้น "UPA" พร้อมใจโหวตสนับสนุนแผนเพิ่มทุน 4 พันล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ในอัตรา 1.6675 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคา 0.15 บาทต่อหุ้น  คาดได้เงินราว 600 ล้านบาทรองรับแผนขยายงานและการลงทุนในอนาคต ฟาก "วิชญ์ สุวรรณศรี " บิ๊กบอส มั่นใจผลักดันศักยภาพการเติบโตและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น หนุนผลงานเทิร์นอะราวด์พลิกมีกำไรเร็วๆ นี้

 

นายวิชญ์ สุวรรณศรี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 กันยายน 2563 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน จากเดิม 3.34 พันล้านบาท เป็น 5.34 พันล้านบาท โดยการออกหุ้นใหม่ 4 พันล้านหุ้น ในราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ในอัตราส่วน 1.6675 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.15 บาท ทั้งนี้จะได้กำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นระหว่างวันที่ 8 -15 ตุลาคม 2563

 

สำหรับวัตุประสงค์การเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้ในการปรับโครงสร้างทางด้านการเงิน อีกทั้งเพิ่มกระแสเงินสด เพื่อรองรับการขยายงานและการลงทุนในอนาคตตามแผนงานที่กำหนดไว้

 

คาดว่าจะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งจะแบ่งเป็นการเข้าลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มเวียดนามไม่เกิน 400 ล้านบาท ภายในเดือนตุลาคมนี้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงเป็นเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการอื่น ๆ ของบริษัทฯทั้งโครงการที่เกี่ยวกับธุรกิจพลังงาน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจสาธารณูปโภค ไม่เกิน 250 ล้านบาท ภายในไตรมาส 2/2564 

 

"ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่าน ที่สนับสนุนการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมีฐานทุนที่แข็งแกร่ง และมีการนำเงินไปขยายการลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะการขยายงานในประเทศเวียดนาม ล่าสุดได้รับอนุมัติจากในการเข้าซื้อขายหุ้น ในโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ ฯ ซึ่งมีกำลังการผลิต 46.7 เมกะวัตต์  มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย (EIRR) ที่น่าสนใจ อีกทั้งเป็นการสร้างรายได้ที่แน่นอนระยะยาว ตามอายุสัมปทาน 20 ปี และจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น ในการสร้างผลงานให้มีการเทิร์นอะราวด์ และพลิกกลับมามีกำไรได้" นายวิชญ์ กล่าวในที่สุด 

 

อนึ่ง ปัจจุบัน บริษัทฯมีรายได้หลักมาจาก ธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจพลังงาน สาธารณูปโภค และ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์