MINOR Food แผน 5 ปี ดันเป้าทะยานสู่ 4,500 สาขาทั่วโลก บุกตลาดศักยภาพสูง อินโดนีเซีย

MINOR Food เครือหุ้น MINT กางแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี "Passion for Growth" ตั้งเป้าทะยานสู่ 4,500 สาขาทั่วโลกภายในปี 2572 พร้อมชูโมเดลแฟรนไชส์หลักในการเติบโต

กรุงเทพฯ – บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจร้านอาหารระดับโลก ประกาศแผนการเติบโตครั้งสำคัญภายใต้กลยุทธ์ "Passion for Growth" โดยตั้งเป้าขยายจำนวนร้านอาหารในเครือเพิ่มขึ้นอีก 1,800 สาขา รวมเป็น 4,500 สาขาภายในปี 2572 พร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ล่าสุด "THE STEAK & MORE" เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอ

นายธันยเชษฐ์ เอกวิชวิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทได้นำกลยุทธ์ "Passion for Growth" มาเป็นธงนำในการขับเคลื่อนองค์กรตลอดช่วงปี 2568-2572 โดยมีเป้าหมายเพื่อก้าวสู่การเป็น "Global Franchiser" หรือผู้ให้สิทธิ์แฟรนไชส์ระดับโลกอย่างเต็มตัว

ปัจจุบัน ไมเนอร์ ฟู้ด มีร้านอาหารกว่า 2,700 สาขาใน 24 ประเทศ โดยเป็นร้านในรูปแบบแฟรนไชส์ถึง 1,300 สาขา (คิดเป็น 48%) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความสำเร็จของโมเดลธุรกิจนี้เป็นอย่างดี สำหรับเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทตั้งเป้าจะมีร้านอาหารรวมกว่า 4,500 ร้าน และเพิ่มสัดส่วนร้านแฟรนไชส์เป็น 2,500 ร้าน หรือ 56% ของพอร์ตธุรกิจทั้งหมด

เจาะลึกแผนรุกตลาดโลก: ปักหมุดเน้นรุกตลาดอินโดนีเซีย - โอกาสเติบโตในตะวันออกกลาง

ในส่วนของแผนธุรกิจระดับนานาชาติ ถือเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การเติบโตในครั้งนี้ โดยบริษัทจะรุกตลาดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Market) ที่มีศักยภาพสูงอย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งหลังรุกตลาดเพียง 1 ปี ไมเนอร์ ฟู้ด ประสบความสำเร็จในการสร้างฐานที่มั่นอย่างแข็งแกร่ง โดยแบรนด์แดรี่ควีน (Dairy Queen) ขยายไปแล้ว 38 สาขา และ กาก้า (GAGA) 32 สาขา จากความสำเร็จดังกล่าว บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสเติบโตในตลาดร้านของหวาน และมีแผนจะเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในกลุ่มนี้อีก 2 แบรนด์ภายในสิ้นปีนี้


นอกจากนี้ ยังมองเห็นโอกาสสำคัญในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง โดยใช้แบรนด์ เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) เป็นหัวหอกในการเจาะตลาด ควบคู่ไปกับการขยายแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์สเต๊กเฮาส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ร้านโยนไข่" ซึ่งได้มีการปรับโมเดลธุรกิจให้มีความทันสมัยและน่าสนใจยิ่งขึ้น และได้ขยายสาขาแรกไปที่ประเทศมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ยุทธศาสตร์การเติบโตผ่าน 3 แกนหลัก

ไมเนอร์ ฟู้ด จะขับเคลื่อนการเติบโตผ่าน 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่:

  1. ขยายแฟรนไชส์ในประเทศ: มุ่งเน้นการขยายสาขาของแบรนด์ยอดนิยมอย่าง บอนชอน (Bonchon), แดรี่ควีน (Dairy Queen) และ กาก้า (GAGA) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมพัฒนานวัตกรรมร้านค้ารูปแบบใหม่ เช่น "Dairy Queen Standalone Modular Format" ร้านค้าที่สามารถเคลื่อนย้ายทำเลได้ด้วยงบประมาณที่ประหยัด เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในทำเลที่มีข้อจำกัดและกลุ่มที่ชื่นชอบของหวานยามดึก (Late-night sweets) โดยตั้งเป้าเปิด 15 สาขาในปีนี้

  2. รุกตลาดต่างประเทศ: เร่งขยายสาขาในตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งแบรนด์ในเครือมีการเติบโตดีเยี่ยม รวมถึงภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง โดยใช้แบรนด์เรือธงอย่าง เดอะ คอฟฟี่ คลับ, สเวนเซ่นส์ และแบรนด์ร้านสเต๊กสไตล์ญี่ปุ่น บุกตลาดใหม่ๆ

  3. พัฒนาและเปิดตัวแบรนด์ใหม่: เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย ล่าสุดได้เปิดตัวแบรนด์ "THE STEAK & MORE" ร้านสเต๊กที่เน้นความคุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 5 สาขา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าผ่าน Flagship Store ในจังหวัดต่างๆ เช่น The Pizza Company ไส้อั่ว ที่จังหวัดแพร่, Swensen’s Flagship Store ที่ขอนแก่น และ GAGA’s Flagship Store ที่หาดใหญ่ เพื่อสร้างจุดเช็คอินและตอกย้ำความเป็นผู้นำในแต่ละพื้นที่

"กลยุทธ์ 'Passion for Growth' ไม่เพียงแต่จะยกระดับแบรนด์ในเครือสู่เวทีโลก แต่ยังเป็นการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนให้กับพนักงาน ลูกค้า พันธมิตรแฟรนไชส์ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เราเชื่อมั่นว่าด้วยจุดแข็งในการเป็นทั้งผู้ประกอบการ (Operator) และผู้ให้สิทธิ์ (Franchisor) จะทำให้เราเข้าใจและสนับสนุนพันธมิตรแฟรนไชส์ได้อย่างดีที่สุด" ธันยเชษฐ์กล่าวทิ้งท้าย