พลังงาน-คปภ. บึ้มชายแดน ไม่ใช่ภัยสงคราม ประกันต้องจ่าย 21 ล้าน

พลังงาน-คปภ. บึ้มชายแดน ไม่ใช่ภัยสงคราม ประกันต้องจ่าย 21 ล้าน เยียวยาปั๊มน้ำมันชายแดน

กระทรวงพลังงานจับมือ คปภ. รับเรื่องร้องทุกข์จากเจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท. ที่จังหวัดศรีสะเกษ หลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุยิงลูกระเบิด BM21 จากฝั่งกัมพูชา ด้าน คปภ. ชี้ชัด เหตุการณ์เป็นการปะทะ ไม่ใช่ภัยสงคราม บริษัทประกันภัยต้องให้ความคุ้มครองและจ่ายค่าสินไหมทดแทน

วันนี้ (4 สิงหาคม 2568) เวลา 10.00 น. ณ กระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดีรังสิต พันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายคณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล ผู้ช่วยเลขาธิการสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ร่วมกันรับหนังสือขอความเป็นธรรมจาก นางกมลรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ตำบลบ้านผือ อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับผู้ได้รับผลกระทบ โดยการนำของ นายชณทัต ปัทะมะภูวดล ผู้ก่อตั้งเพจ "ชณทัตลุยครับ"

นางกมลรัตน์ เจ้าของสถานีบริการน้ำมัน กล่าวว่า เหตุการณ์ปะทะระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ สถานีบริการน้ำมันและร้านสะดวกซื้อของตนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ประเมินมูลค่าความเสียหายกว่า 21 ล้านบาท ทำให้ต้องปิดกิจการมานานกว่า 3 เดือน ขณะที่ภาระหนี้สินที่กู้ยืมจากธนาคารเพื่อลงทุนยังคงอยู่ จึงเดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขอความเมตตาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ

ด้าน พันเอก เฟื่องวิชชุ์ กล่าวว่า แม้กระทรวงพลังงานจะไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) ได้แสดงความห่วงใยและมอบหมายให้ตนเป็นตัวกลางในการประสานงานกับทุกฝ่าย ทั้ง คปภ. และผู้บริหารของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR) เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด

ขณะที่ นายคณานุสรณ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ คปภ. ได้ให้ความชัดเจนว่า จากการตรวจสอบเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยที่เจ้าของสถานีบริการได้ทำไว้ แม้จะมีข้อยกเว้นความคุ้มครองกรณีภัยจากสงครามหรือการรุกราน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ถือเป็นภัยสงคราม เป็นเพียง "การปะทะ" เท่านั้น ดังนั้น กรมธรรม์จึงยังคงให้ความคุ้มครองและบริษัทประกันภัยมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง

"ผมขอแสดงความเสียใจกับผู้ได้รับผลกระทบทุกท่าน หลังจากได้ลงพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ได้เห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน และได้รับมอบหมายจากท่านรัฐมนตรีฯ ให้ติดตามช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด ซึ่งในเบื้องต้นทาง คปภ. ได้ยืนยันแล้วว่าบริษัทประกันต้องรับผิดชอบ และจากนี้จะเร่งประสานกับทาง OR เพื่อหาแนวทางเยียวยาเพิ่มเติมต่อไป" พันเอก เฟื่องวิชชุ์ กล่าวสรุป