การบินไทย วัดใจรายย่อย! เทรดวันแรก Free Float ต่ำ - ไร้ขีดจำกัดราคา

การบินไทย เทรดวันแรก Free Float ต่ำ - ไร้ขีดจำกัดราคา นักวิเคราะห์ให้เป้าหมาย 8.82 - 9.99 บาท

กรุงเทพฯ - ตลาดหุ้นไทยกำลังจะลุกเป็นไฟอีกครั้ง เมื่อหุ้นของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI จะกลับเข้าสู่กระดานซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อย่างเป็นทางการในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ท่ามกลางการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากนักลงทุนทั่วประเทศ การกลับมาครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น "เกมใหญ่" ที่จะสร้างความผันผวนและอาจผลักดันปริมาณการซื้อขายให้พุ่งสูงสุดในรอบปี

หลังจากผ่านกระบวนการฟื้นฟูกิจการนานกว่า 4 ปี และพ้นจากสถานะรัฐวิสาหกิจ การกลับมาของ THAI ในครั้งนี้เต็มไปด้วยความคาดหวังและประเด็นที่น่าติดตาม นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่เป็นเพียงการกลับมาของหุ้นพื้นฐาน แต่เป็น "เกมแห่งการเก็งกำไร" ครั้งมโหฬาร โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการเปิดทางให้กลุ่มเจ้าหนี้ที่แปลงหนี้เป็นทุนสามารถทำกำไรมหาศาลจากการขายหุ้น

เงื่อนไขสำคัญที่ต้องจับตาในวันซื้อขาย

การกลับมาเทรดวันแรกของ THAI มีเงื่อนไขพิเศษที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาหุ้นในวันดังกล่าว:

  • ไม่มีราคาสูงสุด-ต่ำสุด (Ceiling & Floor): ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ราคาหุ้น THAI จะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเต็มที่ ขึ้นอยู่กับแรงซื้อและแรงขายในตลาดโดยไม่มีกรอบจำกัด

  • ยังไม่ถูกคำนวณในดัชนี SET: ในช่วงแรก หุ้น THAI จะยังไม่ถูกนำไปรวมในการคำนวณดัชนี SET50 หรือ SET100 ซึ่งจะช่วยลดแรงซื้อจากกองทุนที่ลงทุนอิงดัชนี

  • Free Float ต่ำ: หุ้นที่หมุนเวียนซื้อขายได้ในตลาด (Free Float) มีสัดส่วนเพียงประมาณ 43.12% เนื่องจากหุ้นราว 55% ที่เกิดจากการแปลงหนี้เป็นทุนของเจ้าหนี้รายใหญ่และหุ้นเพิ่มทุนจะถูกจำกัดการขายเป็นเวลา 1 ปี (Silent Period) สภาพคล่องที่จำกัดนี้อาจเปิดช่องให้เกิดการชี้นำราคาได้ง่ายขึ้น

โครงสร้างผู้ถือหุ้นและต้นทุนที่แตกต่าง

ประเด็นสำคัญที่ทำให้เกมนี้ซับซ้อนคือต้นทุนของผู้ถือหุ้นแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ:

  • กระทรวงการคลัง: ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนประมาณ 38.90% (รวมหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอื่น ๆ จะอยู่ที่ราว 42.94%)

  • เจ้าหนี้ที่แปลงหนี้เป็นทุน: เจ้าหนี้สถาบันการเงินและผู้ถือหุ้นกู้บางกลุ่มได้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนในราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นต้นทุนที่ต่ำมากและสร้างแรงจูงใจในการขายทำกำไร

  • ผู้ถือหุ้นเดิมและผู้ซื้อหุ้นเพิ่มทุน: ในช่วงปลายปี 2567 มีการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและบุคคลในวงจำกัด (PP) ที่ราคา 4.48 บาทต่อหุ้น

  • กองทุนวายุภักษ์: ตรงข้ามกับกระแสข่าวก่อนหน้า ปัจจุบันกองทุนวายุภักษ์ถือหุ้น THAI ในสัดส่วนที่น้อยมากเพียง 0.58% เท่านั้น

มุมมองนักวิเคราะห์และกลยุทธ์เก็งกำไร

บทวิเคราะห์จากหลายบริษัทหลักทรัพย์ให้ราคาเป้าหมายของ THAI ในช่วง 7.65 - 10.70 บาท นักวิเคราะห์จาก บล.กรุงศรีมองว่าหากราคาเปิดต่ำกว่า 7.65 บาท ถือเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้เป้าหมายไว้ที่ 10.70 บาท

มุมมองจาก นายนิพนธ์ สุวรรณประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ไอร่า ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ที่ตลาดให้ความเชื่อถือ มักจะเตือนให้นักลงทุนระมัดระวัง "Money Game" หรือเกมการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยแรงเก็งกำไรมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน แม้จะยังไม่มีบทวิเคราะห์โดยตรงต่อกรณี THAI แต่แนวคิดของเขาชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เงินทุนจำนวนมหาศาลอาจไหลออกจากหุ้นตัวอื่นในตลาดเพื่อเข้ามาเก็งกำไรในหุ้น THAI เพียงตัวเดียว และเมื่อเกมจบลง แรงขายมหาศาลอาจสร้างความผันผวนระลอกใหม่ให้กับตลาดโดยรวมได้

คำเตือน: การเก็งกำไรในหุ้น THAI มีความเสี่ยงสูง นักลงทุนอาจเผชิญกับการขาดทุนอย่างหนักหากเข้าผิดจังหวะ การตัดสินใจที่รวดเร็วและเข้าใจ "เกม" ของผู้เล่นรายใหญ่จึงเป็นสิ่งจำเป็น

โดยสรุป วันที่ 4 สิงหาคม 2568 จะเป็นวันที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง การกลับมาของ THAI คือโอกาสครั้งสำคัญสำหรับนักลงทุนที่กล้าได้กล้าเสีย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นกับดักที่พร้อมจะสร้างความเสียหายให้กับผู้ที่มองเกมไม่ขาด ความเข้าใจในโครงสร้างผู้ถือหุ้น เงื่อนไขการซื้อขาย และพร้อมรับมือกับความผันผวนสุดขีด คือกุญแจสำคัญในการเผชิญหน้ากับ "เกมใหญ่" ครั้งนี้