Meta เร่งเครื่องสร้าง ซูเปอร์ AI ส่วนบุคคล

Meta เร่งเครื่องสร้าง ‘ซูเปอร์ AI ส่วนบุคคล’ เตรียมเปิดคลัสเตอร์ 5GW พร้อมตั้ง Meta Superintelligence Labs


Meta ประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุดอย่างแข็งแกร่ง พร้อมเปิดตัวแผนใหญ่ในการสร้าง “ปัญญาประดิษฐ์ระดับซูเปอร์” (Superintelligence) เพื่อมอบให้กับผู้คนทั่วโลก โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ Meta Superintelligence Labs และเดินหน้าสร้างคลัสเตอร์ AI ขนาดมหึมา


มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ด Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ระบุว่า ขณะนี้มีผู้ใช้งานแอปในเครือมากกว่า 3.4 พันล้านคนต่อวัน และรายได้จากโฆษณายังเติบโตอย่างต่อเนื่อง หนุนให้บริษัทสามารถลงทุนเชิงลึกในด้าน AI โดยเฉพาะใน Llama 4.1 / 4.2 และโมเดลรุ่นใหม่ที่ “จะผลักดันขอบเขตของ AI ภายในปีหน้า”


หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการเผยแผนสร้างคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่ระดับโลก ได้แก่:

Prometheus Cluster ขนาด 1GW+ เตรียมเปิดในปีหน้า

Hyperion Cluster ขยายได้ถึง 5GW ภายในไม่กี่ปี

คลัสเตอร์ “Titan” อีกหลายชุดกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา


Zuckerberg ระบุว่า “เราเริ่มเห็น AI พัฒนาตัวเองได้ แม้จะยังช้า แต่มันคือก้าวแรกของการเข้าสู่ยุคซูเปอร์อินเทลลิเจนซ์” และเสริมว่า “เป้าหมายของ Meta คือการนำ AI ที่ฉลาดเหนือมนุษย์ไปอยู่ในมือของทุกคน เพื่อให้แต่ละคนใช้มันสร้างสิ่งที่พวกเขาให้คุณค่า”


5 แนวทางสร้างรายได้ด้วย AI ของ Meta:

1. โฆษณา: AI ช่วยเพิ่ม conversion 3–5% และเริ่มมีรายได้จากโฆษณา GenAI

2. เนื้อหาที่น่าสนใจยิ่งขึ้น: AI เพิ่มเวลาการใช้งาน Facebook และ IG ขึ้น 5–6%

3. Business Messaging: AI สำหรับธุรกิจเริ่มมี product-market fit ในหลายประเทศ

4. Meta AI: ผู้ใช้งานกว่า 1 พันล้าน MAUs เน้นเป็น AI ส่วนตัวอันดับหนึ่ง

5. AI Devices: แว่น Ray-Ban และ Oakley Meta HSTNs เริ่มได้รับความนิยมสูง


Meta ยังเตรียมโชว์เทคโนโลยี Reality Labs ชุดใหม่ในงาน Meta Connect วันที่ 17 กันยายนนี้ โดยคาดว่าจะเผยวิสัยทัศน์ AR/VR เพิ่มเติม


Meta กำลังวางตัวเป็นผู้นำด้าน “AI ส่วนบุคคล” ระดับโลก พร้อมทั้งโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ทีมวิจัยชั้นนำ และการเข้าถึงผู้ใช้ระดับพันล้านคนทั่วโลก โดยมองว่า ซูเปอร์อินเทลลิเจนซ์จะไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นพลังแห่งการปลดล็อกศักยภายภาพ