การบินไทยประกาศความพร้อมเต็มพิกัด กลับเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ 4 ส.ค. 68 ตอกย้ำความสำเร็จฟื้นฟูกิจการ ล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง พร้อมทะยานสู่หุ้นเติบโต
การบินไทย (THAI) ประกาศความพร้อมนำหุ้นกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้งในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 หลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ สะท้อนความสำเร็จในการพลิกฟื้นองค์กรอย่างสมบูรณ์ สู่การเป็นบริษัทเอกชนที่แข็งแกร่ง พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนด้วยผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่องและกลยุทธ์ที่ชัดเจน มุ่งทะยานสู่การเป็นผู้นำสายการบินระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI จัดแถลงข่าวประกาศความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี และพร้อมนำหุ้นกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกครั้ง โดยมีคณะผู้บริหารร่วมให้ข้อมูลตอกย้ำความเชื่อมั่นในทุกมิติ
พลิกโฉมองค์กร สู่ยุคใหม่แห่งธรรมาภิบาล
นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทชุดใหม่มีความมุ่งมั่นที่จะนำการบินไทยก้าวสู่ยุคใหม่แห่งการเป็นสายการบินที่เปี่ยมประสิทธิภาพและมีธรรมาภิบาลเต็มรูปแบบ โดยคณะกรรมการชุดใหม่ทั้ง 11 ท่าน ได้รับการคัดเลือกตามหลัก Board Skills Matrix เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญครอบคลุมทุกด้าน ทั้งธุรกิจการบิน การเงิน กฎหมาย และการตลาดดิจิทัล
"สถานะของบริษัทในวันนี้อยู่ในจุดที่ดีที่สุดในทุกมิติ ทั้งสถานะทางการเงิน ประสิทธิภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขัน บริษัทมีโครงสร้างองค์กรที่ยืดหยุ่นและมีค่าใช้จ่ายบุคลากรที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าสายการบินชั้นนำ พร้อมมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions ภายในปี 2608 (ค.ศ. 2065) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว"
ผลประกอบการแข็งแกร่ง พิสูจน์ความสำเร็จ
ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการและอดีตประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ กล่าวเสริมว่า ผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่นคือบทพิสูจน์ความสำเร็จของแผนฟื้นฟูฯ โดยในปี 2567 การบินไทยสร้างกำไรจากการดำเนินงาน (ก่อนต้นทุนทางการเงิน) สูงถึง 41,515 ล้านบาท และต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ปี 2568 ที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 13,661 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตรากำไร (EBIT Margin) สูงถึง 26.5% นับว่าสูงที่สุดในกลุ่มสายการบิน Full-Service ในเอเชียแปซิฟิกและยุโรป
กลยุทธ์ชัดเจน มุ่งสู่การเติบโตในอนาคต
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) เปิดเผยถึงกลยุทธ์การเติบโตในอนาคตว่าไม่ได้เป็นเพียงการฟื้นตัวหลังโควิด-19 แต่มาจากการวางรากฐานที่มั่นคงในหลายด้าน ได้แก่:
ปรับโครงสร้างองค์กร: ให้มีความคล่องตัว โปร่งใส และตรวจสอบได้
บริหารฝูงบินอย่างมีประสิทธิภาพ: ตั้งเป้ามีเครื่องบิน 150 ลำ ภายในปี 2576 โดยลดแบบเครื่องบินจาก 8 แบบ เหลือ 4 แบบ เพื่อลดต้นทุนการซ่อมบำรุง
ขยายเครือข่ายเส้นทางบิน: มุ่งสู่การเป็น Regional Network Airline และตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 35% ภายในปี 2572
ยกระดับบริการและช่องทางการขาย: ปรับปรุงห้องโดยสารและพัฒนาช่องทางขายตรงผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
ฐานะการเงินมั่นคง พร้อมทะยาน
นางเฉิดโฉม เทอดสถีรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการบัญชี (CFO) เปิดเผยถึงความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินว่า ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 พลิกกลับมาเป็นบวกที่ 55,439 ล้านบาท จากที่เคยติดลบกว่า 43,142 ล้านบาทในปี 2563 และสามารถลดอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (IBD/E Ratio) เหลือเพียง 2.2 เท่า จาก 12.5 เท่า ในปี 2562
"ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีการปรับลดหนี้เงินต้น (Hair Cut) ของเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้ทางการเงิน ซึ่งเป็นผลจากวินัยทางการเงินที่เข้มงวดและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน" นางเฉิดโฉมกล่าว
การกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของการบินไทยในครั้งนี้ จึงนับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงการพลิกฟื้นองค์กรครั้งประวัติศาสตร์ และเป็นสัญญาณแห่งความพร้อมที่จะกลับมาเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนชั้นนำของประเทศอีกครั้ง
