บล.เอเซีย พลัส (21 ก.ค. 2568) - ภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายล่าสุดด้วยความเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน (Dow Jones -0.32%, S&P500 -0.01%, Nasdaq +0.05%) สะท้อนถึงภาวะที่นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอประเมินความชัดเจนของปัจจัยสำคัญ ทั้งด้านการเมืองและนโยบายเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตามและผลกระทบต่อการลงทุน:
ความไม่แน่นอนของนโยบายการเงิน: มีรายงานข่าวว่าบุคคลใกล้ชิดของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สนับสนุนการต่อวาระตำแหน่งของนายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนต่อนโยบายการเงินในระยะต่อไป นักลงทุนควรจับตาท่าทีของ Fed อย่างใกล้ชิด เพราะมีผลโดยตรงต่อต้นทุนทางการเงินและทิศทางตลาดหุ้นโดยรวม
ความเสี่ยงด้านการค้า: ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงส่งสัญญาณแข็งกร้าวเรื่องการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU ที่ 15-20% แม้จะมีความเป็นไปได้ที่จะเจรจากันได้ แต่ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สร้างความผันผวนให้กับตลาดได้เสมอ นักลงทุนควรระมัดระวังหุ้นในกลุ่มที่มีสัดส่วนรายได้จากยุโรปสูง
สัญญาณบวกด้านกฎหมายคริปโตฯ: การลงนามบังคับใช้ GENIUS Act เพื่อกำกับดูแล Stablecoin ถือเป็นก้าวสำคัญที่สร้างความชัดเจนด้านกฎหมาย เป็นปัจจัยบวกในระยะยาวต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลและหุ้นที่เกี่ยวข้อง
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง: ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด เช่น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการเริ่มสร้างบ้าน ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ แต่ในทางกลับกันอาจทำให้ Fed ชะลอการตัดสินใจลดดอกเบี้ย
หุ้นเด่นน่าสนใจ (Stock Highlight):
American Express (AXP US) - สัญญาณการเติบโตแข็งแกร่ง:
ผลประกอบการ: กำไรสุทธิไตรมาส 2 ทำสถิติสูงสุดใหม่ เพิ่มขึ้น 9% YoY จากการใช้จ่ายผ่านบัตรที่เติบโตต่อเนื่องและรายได้ดอกเบี้ยที่แข็งแกร่ง
มุมมองการลงทุน: ผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมสะท้อนถึงพื้นฐานที่มั่นคงและศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนในช่วงครึ่งปีหลัง เอเซีย พลัส ให้กรอบแนวรับ/แนวต้านที่น่าสนใจสำหรับการเข้าลงทุนที่ 303/287 และ 328/349
Netflix (NFLX US) - กำไรเติบโตสูงเกินคาด:
ผลประกอบการ: กำไรต่อหุ้น (EPS) ในไตรมาส 2 พุ่งขึ้นถึง 47% YoY ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่รายได้เติบโต 16% YoY
มุมมองการลงทุน: การเติบโตของกำไรที่โดดเด่นเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น แนะนำเก็งกำไรในกรอบ โดยมีแนวรับที่ 1,218/1,142 และแนวต้านที่ 1,345/1,396 เป็นจุดพิจารณา
ในภาวะที่ตลาดยังคงรอความชัดเจนจากหลายปัจจัย กลยุทธ์ที่เหมาะสมคือ การเลือกลงทุน (Selective Buy) โดยเน้นไปที่บริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีผลประกอบการที่เติบโตโดดเด่น และมีเรื่องราวการเติบโตที่ชัดเจน เช่น AXP และ NFLX พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์การเมืองและการค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับพอร์ตการลงทุนให้ทันท่วงที