กรุงศรีเผยผลประกอบการครึ่งแรกปี 2568 กำไรสุทธิ 1.58 หมื่นล้านบาท โตเล็กน้อย 0.5% สวนทางพอร์ตสินเชื่อรวมที่หดตัว 1.6% โดยเฉพาะสินเชื่อ SME และรายย่อย สะท้อนกลยุทธ์การตั้งการ์ดสูง คุมเข้มการปล่อยกู้เพื่อเน้นคุณภาพ พร้อมบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านผู้บริหารห่วงเศรษฐกิจครึ่งปีหลังซบเซาต่อเนื่อง คาด GDP ไทยโตเพียง 2.1%

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ประกาศผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 15,829 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยหลักไม่ได้มาจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ย แต่มาจากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง ควบคู่กับการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ในระดับที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อกลับชะลอตัวลง โดยเงินให้สินเชื่อรวม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 ลดลง 1.6% จากสิ้นปี 2567 ซึ่งเป็นผลจากนโยบายที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพและเพิ่มความระมัดระวังในการพิจารณาสินเชื่อ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน โดยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ยังเติบโตได้ 2.8% แต่สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และสินเชื่อรายย่อยปรับตัวลดลง 4.0% และ 3.9% ตามลำดับ

นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน การบริโภค และความต้องการสินเชื่อ กรุงศรียังรักษาระดับผลการดำเนินงานได้ดี สะท้อนยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นการบริหารต้นทุนและควบคุมคุณภาพสินเชื่ออย่างเข้มงวด"

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 นายยามาโตะมองว่ามีแนวโน้มอ่อนแรงต่อเนื่อง โดยมีความเสี่ยงจากมาตรการภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯ ที่จะกระทบภาคการส่งออกอย่างรุนแรง ประกอบกับการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวที่ช้ากว่าคาด และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจกดดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ โดยกรุงศรีคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวได้ที่ 2.1%