กำไรแบงก์ Q2/68 อ่อนแรงเล็กน้อย – KS คงน้ำหนัก ‘เป็นกลาง’ เหตุ NIM-สินเชื่อกดดันต่อเนื่อง
บล.กสิกรไทย (KSec) ประเมินแนวโน้มผลประกอบการกลุ่มธนาคารไทยในไตรมาส 2/2568 ว่าจะ อ่อนตัวลงเล็กน้อย โดยคาดว่า กำไรรวมของ 7 ธนาคารพาณิชย์ ที่อยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของบริษัทจะอยู่ที่ 53,300 ล้านบาท
• ลดลง 3.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
• ลดลง 9.0% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)
ปัจจัยหลักที่กดดันผลประกอบการ:
1. NIM (Net Interest Margin) ที่อ่อนตัวลงต่อเนื่อง
2. รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) ยังซบเซา
3. สินเชื่อรวมเติบโตช้า และบางธนาคารยังมีการตั้งสำรอง NPL เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม การควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน และการลดการตั้งสำรองบางส่วนในบางธนาคาร อาจช่วยพยุงกำไรไม่ให้ลดลงมากนัก
ภาพรวมผลกำไรจาก 7 ธนาคาร:
ธนาคาร กำไรสุทธิ Q2/68 (ลบ.) %QoQ %YoY คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย
BAY 7,822 -3% -11% ถือ 19.75 บาท
BBL 10,807 -14% -8% ถือ 139.00 บาท
KKP 1,023 -4% +33% ถือ 48.25 บาท
KTB 10,776 -4% -4% ถือ 20.70 บาท
SCB 10,807 -13% +9% ถือ 109.00 บาท
TISCO 1,643 -6% -6% ถือ 94.00 บาท
TTB 5,001 -2% -7% ถือ 1.90 บาท
มุมมองต่ออุตสาหกรรม:
KS Research ยังคงมุมมอง “เป็นกลาง” ต่อกลุ่มธนาคาร
• แม้จะไม่มีหุ้นที่โดดเด่นเป็นพิเศษในช่วงนี้
• แต่ เงินปันผลของกลุ่มแบงก์ยังเป็นจุดแข็ง และน่าจะช่วยพยุงราคาหุ้นในระยะกลาง
ข้อสังเกตจากสินเชื่อเดือน พ.ค. 68:
• สินเชื่อรวมของ 7 ธนาคาร เติบโตเล็กน้อย +0.1% MoM
• แรงหนุนจาก:
• สินเชื่อภาครัฐของ KTB
• สินเชื่อธุรกิจของ KKP และ TISCO
• สินเชื่อเช่าซื้อ (HP) เริ่มทรงตัว ไม่ลดลงเหมือนก่อน
• เงินฝากเดือน พ.ค. ลดลง -0.5% MoM เนื่องจากแบงก์พยายามลดต้นทุนดอกเบี้ยจากเงินฝากดอกเบี้ยสูง
⸻
สรุป:
• กำไรกลุ่มธนาคาร Q2/68 อ่อนตัวลงจากแรงกดดัน NIM และสินเชื่อ
• KKP โดดเด่นด้านกำไรโต YoY สูงสุด +33%
• ทุกธนาคารอยู่ในคำแนะนำ “ถือ” ไม่มีตัวเลือกเด่น
• KS คงมุมมอง Neutral ต่อกลุ่มในช่วงครึ่งปีหลัง
• ปัจจัยที่ต้องจับตา: ทิศทางดอกเบี้ย, การฟื้นตัวของสินเชื่อรายย่อย และความสามารถควบคุมต้นทุน