KSS มอง “จดหมายภาษี” สหรัฐฯ ถึงไทย เป็นเกมเจรจาดีล: ลุ้นลดภาษีลง 20–25% ก่อนเส้นตาย 1 ส.ค. – แนะ Buy the Dip หุ้น Defensive
บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี (KSS) วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวล่าสุดของนโยบายภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ต่อไทย หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งลงนามจดหมายภาษีถึง 14 ประเทศ ซึ่ง ไทยอยู่ในกลุ่มแรก ที่ได้รับจดหมายฉบับนี้อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 โดยจดหมายลงนามถึงรักษาการนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
Koraphat V. นักกลยุทธ์ KSS ระบุว่า การส่งจดหมายภาษีให้กับ 6 ประเทศแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และแอฟริกาใต้ สะท้อนถึงความพยายามของสหรัฐฯ ในการเร่งปิดดีลการค้ากับประเทศคู่ค้าสำคัญก่อนวันที่ 1 ส.ค. 2025 ซึ่งเป็นกำหนดบังคับใช้อัตราภาษีล่าสุด
แม้ประเทศไทยยังถูกคงอัตราภาษีที่ 36% ไม่เปลี่ยนจากข้อเสนอเดิมเมื่อ 2 เม.ย. แต่ KSS ประเมินว่า ไทยยังมีโอกาสเจรจาเพื่อ ลดอัตราภาษีลงสู่ระดับ 20–25% หากสามารถยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมที่เป็นรูปธรรมในช่วง 2–3 สัปดาห์นับจากนี้
วิเคราะห์จาก KSS Research:
1. Trade Tactic: สหรัฐฯ ใช้เวลาและภาษีกดดันเพื่อเจรจา
• การขยายเวลา 3 สัปดาห์ และการคงภาษีไทยไว้ที่ 36% เป็นสัญญาณว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ยังรอข้อเสนอจากไทย
• ประเทศที่ถูกคง/เพิ่มภาษีเล็กน้อย ส่วนใหญ่มีสัดส่วนส่งออกไปสหรัฐฯ สูงกว่า 1–5% ขณะที่ 8 ประเทศที่ได้ลดภาษีมีสัดส่วนส่งออกต่ำกว่า 0.5% ซึ่ง KSS มองว่า “ไร้น้ำหนักเชิงยุทธศาสตร์”
2. ผลกระทบต่อตลาดการเงินไทย
• แม้จะมีแรงกดดันเชิงจิตวิทยา (Trade Shock) แต่ตลาดเริ่ม “Price In” แล้ว
• ตลาดหุ้นไทย (SET) ปรับขึ้นเพียง 2.5% ตั้งแต่ข่าวผ่อนผัน 9 เม.ย. เทียบกับ MSCI EM Asia +24.7%
• กรณีเลวร้าย (ภาษี > 25%) ตลาดอาจย่อลงไปทดสอบระดับ 1,053 จุด แต่โอกาสเริ่ม “ลดลง” เนื่องจากไทยมีท่าทีเจรจาเชิงรุก
3. ผลต่อ GDP และกำไรตลาด (EPS)
• หากอัตราภาษี 36% ยังอยู่:
• GDP ไทยปี 2025 อาจถูกปรับลดจาก +2.1% เหลือ +1.3%
• EPS ตลาด SET ลดลงประมาณ 1–2 บาท จากฐานเดิมที่ 87 บาท
• แต่โดยรวมยัง “ไม่กระทบสมมติฐาน Valuation SET อย่างมีนัยสำคัญ” เพราะไทยยังมี Valuation Discount และ P/E ต่ำสุดในภูมิภาค
4. เงินเฟ้อไทยติดลบ 3 เดือนติด – เร่งโอกาสลดดอกเบี้ย
• CPI เดือนล่าสุด -0.25% y-y และ Core CPI +1.06%
• Krungsri Research คาด กนง. อาจลดดอกเบี้ย 2 ครั้งจบที่ 1.25%
• KSS มองลึกกว่า: ดอกเบี้ยอาจลดถึง 0.75% ภายในสิ้นปี
• ทุกการลดดอกเบี้ย 0.25% หนุน SET ได้ราว 50–55 จุด
KSS Strategy – “Shift to Rate Cut Play”
กลุ่มเด่นในภาวะดอกเบี้ยขาลง:
• Defensive: ADVANC, GULF (โรงไฟฟ้า), GPSC
• High Yield/Leverage: KTC, MTC
• High Beta/Recovery: TRUE, CPALL, MINT
• ท่องเที่ยว: CENTEL, ERW, AOT
• ค้าปลีก: CPALL, CPAXT, DOHOME
คำแนะนำประจำวัน:
• Buy the Dip: ADVANC, GULF, CPALL
• Hold: CENTEL, ERW, CPALL
• Avoid ชั่วคราว: AMATA, WHA, KCE (รอความคืบหน้าดีล)
จดหมายภาษีจากทรัมป์ไม่ใช่สัญญาณตัดสัมพันธ์ แต่คือ “เครื่องมือกดดันเชิงยุทธศาสตร์” ที่อาจนำไปสู่ดีลการค้าระดับทวิภาคี หากไทยเสนอเงื่อนไขที่ตอบโจทย์สหรัฐฯ ได้ทันก่อนวันที่ 1 ส.ค. นักลงทุนควรใช้จังหวะตลาดแกว่งตัวเพื่อ “สะสมหุ้น Defensive และหุ้นที่ได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลง”