วันนี้ 19 มิถุนายน 2568 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของภูมิทัศน์ทางการเงินไทย เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศผลการพิจารณาอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) อย่างเป็นทางการ โดยมี 3 กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้บุกเบิกธนาคารดิจิทัลในประเทศไทย ได้แก่ กลุ่มซีพี, กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ และกลุ่มกรุงไทย ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้จะจุดชนวนการแข่งขันในตลาดการเงินให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงบริการทางการเงินในยุคดิจิทัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เปิดโฉมหน้า 3 กลุ่มทุนผู้บุกเบิก

 Virtual Bank

1. กลุ่มซีพี: ทัพใหญ่พร้อมบุกตลาดการเงินดิจิทัล

เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี กลุ่มธุรกิจที่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อมแล้วที่จะเข้ามาเขย่าวงการธนาคารดิจิทัล โดยมีบริษัทในเครือที่แข็งแกร่งเป็นฐานทัพสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น CPALL (7-Eleven, Makro, Lotus's), CPF (อาหาร), TRUE (โทรคมนาคม), CPAXT (ค้าส่ง-ค้าปลีก), เจียไต๋ (เกษตร), ซีพีแรม (อาหารสำเร็จรูป) และโกซอฟท์ (เทคโนโลยี) ซึ่งทั้งหมดนี้จะหล่อหลอมรวมกันเพื่อ

สนับสนุนบริการ Virtual Bank ที่คาดว่าจะเป็น บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด (TrueMoney) ผู้ให้บริการ E-Wallet รายใหญ่ในไทย โดยมีพันธมิตรระดับโลกอย่าง Ant International ในเครือ Alibaba ที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีและฐานลูกค้าดิจิทัล

2. กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX): จับมือยักษ์ใหญ่ธนาคารดิจิทัลระดับโลก

SCBX บริษัทแม่ของธนาคารไทยพาณิชย์ สถาบันการเงินที่มุ่งมั่นสู่การเป็นกลุ่มเทคโนโลยีทางการเงิน ได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรระดับโลกเพื่อสร้าง Virtual Bank ที่ทรงพลัง โดยมี:

 * KakaoBank (คาเคาแบงก์) จากเกาหลีใต้: ธนาคารดิจิทัลชั้นนำที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในเกาหลีใต้ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์บริการที่เข้าถึงใจผู้ใช้งานดิจิทัล

 * WeBank (เวย์แบงก์) จากจีน: ธนาคารดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ซึ่งจะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัยมาช่วยเสริมศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานและโซลูชั่นของ Virtual Bank

การรวมตัวของ SCBX กับ KakaoBank และ WeBank ถือเป็นการรวมสุดยอดประสบการณ์ธนาคารดิจิทัลจากสองประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการธนาคารในไทย

3. กลุ่มกรุงไทย: การรวมตัวของรัฐวิสาหกิจและเอกชนชั้นนำ

ธนาคารกรุงไทย (KTB) ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐที่มีฐานลูกค้าและโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ได้รวมพลังกับพันธมิตรเอกชนชั้นนำของไทยเพื่อสร้างสรรค์ Virtual Bank ที่ตอบโจทย์คนไทยในวงกว้าง ได้แก่:

 * บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC หรือ AIS): ผู้นำด้านโทรคมนาคมที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่และเครือข่ายดิจิทัลที่ครอบคลุม

 * บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR): บริษัทพลังงานและค้าปลีกที่มีเครือข่ายจุดบริการทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยขยายการเข้าถึงบริการทางการเงิน

 * บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF): บริษัทพลังงานขนาดใหญ่ที่พร้อมสนับสนุนด้านการลงทุนและนวัตกรรม

การผนึกกำลังของกลุ่มกรุงไทยกับ AIS, OR และ GULF แสดงให้เห็นถึงการผสานความแข็งแกร่งจากธุรกิจหลักที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างสรรค์บริการทางการเงินที่เข้าถึงง่าย สะดวกสบาย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคดิจิทัล

การได้รับไลเซนส์ Virtual Bank ของทั้ง 3 กลุ่มนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะปฏิวัติบริการทางการเงินในประเทศไทย ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินให้แก่ประชาชนที่ยังเข้าไม่ถึง (Underbanked) และยังกระตุ้นให้สถาบันการเงินเดิมเร่งปรับตัว สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรับมือกับการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างดุเดือดในตลาดธนาคารดิจิทัล