บล. เอเซีย พลัส เผยภาพรวมการลงทุนเมื่อวานนี้ (ตามข้อมูลจาก Bloomberg) แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นในซีกโลกตะวันตก ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปิดในแดนลบ สวนทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย ด้านค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัว ส่วนราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง

ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกากลับมาคึกคัก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี NASDAQ ที่ทะยานขึ้นร้อนแรงที่สุด +1.52% ปิดที่ 19,701.21 จุด ตามมาด้วยดัชนี S&P 500 ที่ปรับขึ้น +0.94% และ DJIA บวก +0.75% สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นยุโรปที่ปิดบวกยกแผงเช่นกัน โดยดัชนี Euro Stoxx 50 ปรับตัวขึ้น +0.93% และ DAX ของเยอรมนีบวก +0.78%

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการลงทุนในเอเชียกลับเคลื่อนไหวผสมผสาน โดยมีตลาดที่โดดเด่นคือ เกาหลีใต้ ที่พุ่งขึ้น +1.80% และ ญี่ปุ่น (Nikkei) ที่บวก +1.26% แต่สำหรับตลาดหุ้นไทย (SET Index) กลับสวนกระแสโลก โดยปรับตัวลดลง -0.73% มาปิดที่ระดับ 1,114.49 จุด เช่นเดียวกับตลาดในอาเซียนอย่างอินโดนีเซีย (-0.68%) และฟิลิปปินส์ (-0.58%) ที่ปิดในแดนลบเช่นกัน

ในส่วนของตลาดปริวรรตเงินตรา ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง -0.19% ส่งผลให้ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์ (USD/THB) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 32.48 บาท ขณะที่ราคาทองคำ (Gold Spot) ขยับขึ้นเล็กน้อย +0.08%

สำหรับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง โดย WTI ลดลง -1.02% และ Brent ลดลง -1.35% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 4.45% สะท้อนแรงเทขายในตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนยังคงต้องจับตาทิศทางของปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่จะส่งผลต่อการลงทุนในระยะต่อไป