AOT ดิ่งแรง หุ้นหลุด 30 บาทในรอบ 10 ปี

ทำไม AOT ดิ่งแรง หุ้นหลุด 30 บาทในรอบ 10 ปี 

หุ้นบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ร่วงหนักในวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2568 ปิดตลาดที่ 29.75 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือคิดเป็นการปรับตัวลงกว่า 7% ท่ามกลางความกังวลจากสองปัจจัยหลักที่กระทบต่อภาพลักษณ์และรายได้ของบริษัท

ปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาหุ้นในวันดังกล่าวคือข่าวที่ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ได้ยื่นหนังสือถึง AOT ขอเจรจายุติสัญญาการดำเนินกิจการร้านค้าปลอดอากรใน 3 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่ โดยสัญญาดังกล่าวมีอายุถึงปี 2576 การถอนตัวครั้งนี้ส่งผลให้ตลาดประเมินว่า AOT อาจสูญเสียรายได้ค่าผลประโยชน์ตอบแทน (Revenue Sharing) อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในช่วงที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

นอกจากนี้ ข่าวเกี่ยวกับ การขู่วางระเบิดเที่ยวบินของสายการบิน Air India ที่สนามบินภูเก็ตยิ่งซ้ำเติมความเชื่อมั่นในกลุ่มหุ้นท่าอากาศยาน โดยเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและผลกระทบด้านภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ

การซื้อขายหุ้น AOT ในวันดังกล่าวคึกคักเป็นพิเศษ โดยมีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 4,087 ล้านบาท ราคาหุ้นเคลื่อนไหวระหว่าง 28.50 - 31.75 บาท ก่อนปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ 29.75 บาท นักวิเคราะห์บางรายเริ่มประเมินว่าจะมีการทบทวนประมาณการกำไรของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง หากไม่มีคู่ค้ารายใหม่มาทดแทนได้อย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ นักลงทุนยังต้องจับตาความเคลื่อนไหวของ AOT ในช่วงถัดไป โดยเฉพาะท่าทีของคิงเพาเวอร์ และแผนการจัดหาผู้ประกอบการรายใหม่จาก AOT เพื่อรักษารายได้ในระยะยาว

มูลค่าการตลาดหาย กว่า 4 แสนล้านบาท 

ในช่วงปี 2567บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ประมาณ 850,000 ล้านบาท

ในวันที่ 13 มิถุนายน 2568หุ้นAOT มี Market Cap อยู่ที่ 424,999.58 ล้านบาท 

ผู้ถือหุ้นใหญ่

1. กระทรวงการคลัง ครองตำแหน่งผู้ถือหุ้นใหญ่สุดที่ ~70%

2. Thai NVDR ตามมาเป็นอันดับสอง ~3%

3. รองลงไปคือ สสส., KTAM, BlackRock และกองทุนทั่วไป (~1–2% แต่ละกอง)

4. อีก ~20% เป็นของนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนผ่าน NVDR