EPG เดินหน้ารับมือความท้าทายเศรษฐกิจโลก เน้นกลยุทธ์นวัตกรรมขับเคลื่อนการเติบโตปีบัญชี 68/69

        ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีนี้เผชิญกับความไม่แน่นอนสูงจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้า ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ EPG ได้วางแผนรับมือโดยใช้จุดแข็งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ควบคู่กับการบริหารจัดการภายใต้นโยบาย “USE” (Utilization, Save, Efficiency) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และรักษาสภาพคล่อง พร้อมตั้งเป้ายอดขายในปีบัญชี 68/69 ที่ 13,800 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้น 30–33% ในกลุ่มธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 5% โดยเน้นตลาดพรีเมี่ยมในประเทศ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น พร้อมเร่งเจาะตลาดอุตสาหกรรมเฉพาะทาง เช่น Ultra Low Temperature และระบบ Air Ducting ซึ่งตอบโจทย์เมกะเทรนด์ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ล่าสุด Aeroflex ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AERO-ROOF หลังคาเมทัลชีทติดฉนวนกันความร้อน เจาะตลาดก่อสร้างที่ใส่ใจมาตรฐานอาคารเขียวและการประหยัดพลังงาน

        ในขณะเดียวกัน ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้แบรนด์ Aeroklas คาดว่ายอดขายจะปรับลดลง 5% จากผลกระทบของการชะลอตัวในอุตสาหกรรมยานยนต์โลก อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนานวัตกรรมชิ้นส่วนที่เบาและประหยัดพลังงาน รองรับทั้ง ICE และ EV โดยมุ่งเน้นการควบคุมต้นทุน พัฒนาสินค้าใหม่ และเสริมประสิทธิภาพในตลาดออสเตรเลียและแอฟริกาใต้ รวมถึงสร้างระบบซัพพลายเชนในประเทศเพื่อยกระดับการดำเนินงาน สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP บริษัทตั้งเป้ายอดขายใกล้เคียงปีก่อน โดยมุ่งพัฒนานวัตกรรมที่ลดต้นทุนโดยไม่ลดคุณภาพ ใช้เครื่องจักรอัตโนมัติความเร็วสูง และเสริมทางเลือกผลิตภัณฑ์จากกระดาษเพื่อตอบโจทย์กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ EPG ตั้งงบลงทุน 483 ล้านบาทในปีนี้เพื่อปรับปรุงไลน์ผลิต และเตรียมเสนอจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.08 บาท ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 23 กรกฎาคม 2568 นี้ ดร.เฉลียวย้ำความเชื่อมั่นว่า นวัตกรรมและกลยุทธ์ของบริษัทจะนำพาทั้งสามธุรกิจหลักเติบโตท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจโลก

        บริษัทตั้งงบลงทุนในปีบัญชี 68/69 รวม 483 ล้านบาท เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพิ่มเครื่องจักร และใช้ปรับปรุงไลน์การผลิต นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญ ผู้ถือหุ้นประจำปี 68 เพื่อขออนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปีให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท (แปดสตางค์) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 224 ล้านบาท ซึ่งกำหนดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2568 ในวันที่ 23 ก.ค. 68 และหากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นฯ มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล จะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 4 ส.ค. 68 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 20 ส.ค.68