"ก.ล.ต. ขานรับ G-Token รัฐบาล กำหนดแนวทางกำกับดูแลเข้ม คุ้มครองนักลงทุน-หนุนเข้าถึงการลงทุนทั่วถึง

ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ให้กระทรวงการคลังสามารถออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (G-Token) และอนุมัติหลักการร่างประกาศที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงการลงทุนของประชาชน ก.ล.ต. ได้กำหนดให้ G-Token อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตามพระราชกำหนดสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้สามารถดำเนินการกำกับดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการออมและการลงทุนของประชาชน

G-Token จะมอบสิทธิแก่ผู้ถือในการได้รับคืนเงินต้นและผลตอบแทนตามที่กำหนด โดยการออกโทเคนจะดำเนินการตามมาตรา 10 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ทั้งนี้ การเสนอขายโดยกระทรวงการคลังไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจาก ก.ล.ต. เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ระดมทุนอื่นของรัฐ แต่ต้องเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน และหลังการเสนอขาย G-Token จะสามารถซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้ถือ

ก.ล.ต. จะเปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและธุรกิจหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาต สามารถให้บริการเกี่ยวกับ G-Token ได้ ภายใต้การกำกับร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปปง. และ ธปท. โดยยังคงห้ามนำ G-Token หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นมาใช้เป็นสื่อกลางชำระค่าสินค้าและบริการ (MOP)

ทั้งนี้ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต้องมีระบบป้องกันการซื้อขายที่ไม่เป็นธรรม และปฏิบัติตามเกณฑ์คุ้มครองผู้ลงทุนของ ก.ล.ต. อย่างเคร่งครัด โดย ก.ล.ต. จะออกประกาศที่เกี่ยวข้องและเปิดรับฟังความคิดเห็นภายในเดือนพฤษภาคม 2568

ก.ล.ต. ย้ำบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลการระดมทุนทุกรูปแบบในตลาดทุน เพื่อให้เกิดการคุ้มครองผู้ลงทุนอย่างเหมาะสมและส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรมในระบบนิเวศของตลาดทุนไทย.

ชูบทบาท ก.ล.ต. เน้นคุ้มครองผู้ลงทุน

เลขาธิการ ก.ล.ต. ระบุว่า ไม่ว่านโยบายจะมาจากรัฐหรือเอกชน บทบาทของ ก.ล.ต. ยังคงเน้น “การคุ้มครองผู้ลงทุน” เป็นหลัก พร้อมส่งเสริมการเข้าถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนอย่างเท่าเทียมผ่านการใช้เทคโนโลยี

เปิดจองซื้อผ่าน 2 ระบบ – ทั้งสินทรัพย์ดิจิทัลและหลักทรัพย์

การจองซื้อโทเคนจะเปิดให้ประชาชนเข้าถึงได้ผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หรือผ่านผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ เช่น บริษัทหลักทรัพย์ โดยผู้ที่ไม่มี e-wallet สามารถขอจองผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งจะดูแลและเก็บโทเคนแทน พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลไปยังกระทรวงการคลังเพื่อจัดสรรโทเคน

ซื้อขายตลาดรองผ่านตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

หลังได้รับการจัดสรร โทเคนจะสามารถนำไปซื้อขายในตลาดรองผ่านระบบของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลได้ โดยยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.

ย้ำความชัดเจน – ไม่ใช่พันธบัตรรัฐแบบเดิม

ก.ล.ต. ชี้ว่า โทเคนดิจิทัลครั้งนี้มีลักษณะเฉพาะ ไม่ใช่พันธบัตรรัฐหรือเครื่องมือทางหนี้ตามแบบดั้งเดิม แต่เป็นการลงทุนผ่านโทเคนที่อยู่ภายใต้การกำกับตามกรอบกฎหมายใหม่ เพื่อให้ทันกับบริบทการเงินยุคดิจิทัล

จับตารายละเอียด – รอประกาศจากกระทรวงการคลัง

สำหรับรายละเอียด เช่น เชนที่เลือกใช้ หรือรายชื่อผู้ประกอบการที่ร่วมให้บริการ คาดว่าจะประกาศโดยกระทรวงการคลังเร็ว ๆ นี้

สรุป

การออกโทเคนดิจิทัลโดยกระทรวงการคลังถือเป็นก้าวสำคัญของการระดมทุนภาครัฐในยุคดิจิทัล โดยมี ก.ล.ต. ทำหน้าที่กำกับดูแล พร้อมสร้างความมั่นใจแก่ผู้ลงทุนผ่านกลไกที่ชัดเจนและโปร่งใส.