"SET" หนุน FinTech – ชี้สตาร์ทอัพไทยมีศักยภาพสู่เวทีโลก เดินหน้าแผนกระดานเทรดใหม่รับ New Economy

ตลาดหลักทรัพย์ฯ หนุน FinTech – ชี้สตาร์ทอัพไทยมีศักยภาพสู่เวทีโลก เดินหน้าแผนกระดานเทรดใหม่รับ New Economy

ศาสตราจารย์พิเศษกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยความเคลื่อนไหวด้านเทคโนโลยีการเงินและการลงทุน เดินหน้าสนับสนุนสตาร์ทอัพไทย พร้อมแผนตั้งกระดานเทรดใหม่รองรับธุรกิจยุคใหม่ หวังดึงดูดเม็ดเงินลงทุนและสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน

ตลท. ชูบทบาท FinTech – สตาร์ทอัพไทยเติบโตไว

ในการเสวนาโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้แทนจากภาคธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญด้าน FinTech ร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับทิศทางเทคโนโลยีการเงิน โดย ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ ตลท. ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงในระบบการเงินดิจิทัล โดยเฉพาะด้านการโอนเงินและการลงทุน กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยสตาร์ทอัพไทยหลายรายได้รับความสนใจจากต่างชาติ และบางรายได้ขยายธุรกิจไปสู่ตลาดต่างประเทศแล้ว

ข้อจำกัดในประเทศยังท้าทาย – เสนอรัฐเร่งหนุนสภาพแวดล้อม FinTech

อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายสำคัญในด้านโครงสร้างพื้นฐานและกฎระเบียบภายในประเทศ ผู้เชี่ยวชาญเสนอว่า รัฐควรเร่งปรับปรุงสภาพแวดล้อม เช่น มาตรการภาษี หรือการเปิดตลาดสากลให้สตาร์ทอัพไทยเข้าถึงได้ง่ายขึ้น พร้อมสนับสนุนการร่วมมือระหว่างบริษัทขนาดใหญ่และสตาร์ทอัพ เพื่อพัฒนาโซลูชันตอบโจทย์เศรษฐกิจดิจิทัล

ตลท. เร่งตั้งกระดานใหม่ ดึงกลุ่มธุรกิจ New Economy

ควบคู่กัน ตลท. เตรียมเปิดกระดานเทรดใหม่สำหรับกลุ่ม New Economy เช่น Deep Tech, Data Center, สตาร์ทอัพ และบริษัทต่างชาติ โดยร่วมมือกับ BOI เพื่อจัดสิทธิประโยชน์จูงใจ พร้อมผ่อนเกณฑ์กำไร 3 ปีแบบ IPO เดิม เพื่อเปิดกว้างให้ธุรกิจนวัตกรรมเข้าถึงตลาดทุน

เดินหน้าปรับเกณฑ์-หนุน Spin-off บริษัทยักษ์ใหญ่

ตลทยังผลักดันให้บริษัทขนาดใหญ่ เช่น กลุ่ม ปตท., SCG และ WHA แยกบริษัทลูกด้านเทคโนโลยีเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพิ่มความหลากหลายของหุ้นและดึงดูดนักลงทุน พร้อมปรับเกณฑ์สำคัญ ได้แก่

• ปรับราคา floor หุ้นเข้าใหม่

• จำกัดน้ำหนักหุ้นรายตัวในดัชนี SET50/SET100 ไม่เกิน 10%

• จำกัดสิทธิ์การซื้อขาย HFT เฉพาะหุ้น SET100

ผ่อนปรนเกณฑ์ซื้อหุ้นคืน – หนุนแผน TISA

ในเดือนพฤษภาคมนี้ เกณฑ์ใหม่เพื่อผ่อนปรนการซื้อหุ้นคืนจะมีผลบังคับใช้ คาดว่าจะกระตุ้นให้ บจ. ซื้อหุ้นคืนเพิ่ม โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงเมษายน มี 37 บริษัทประกาศซื้อหุ้นคืนรวมมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน แผนออม-ลงทุนผ่านโครงการ TISA ก็มีความคืบหน้า และจะเป็นอีกแรงสนับสนุนตลาดทุนระยะยาว

ชูเครื่องยนต์ใหม่ตลาดหุ้นไทย – ดันเศรษฐกิจนวัตกรรม

ศ.กิติพงศ์ สรุปว่า การเปลี่ยนผ่านของระบบเศรษฐกิจต้องอาศัยเครื่องยนต์ใหม่อย่าง FinTech และธุรกิจนวัตกรรม ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสม จะช่วยดึงดูดการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน.