นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าต้นสัปดาห์ที่ระดับ 33.19 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า โดยเคลื่อนไหวแบบแกว่งตัวในกรอบแคบๆ (sideways) ท่ามกลางแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม เงินบาทกลับมาแข็งค่าในช่วงเช้าวันจันทร์ หลัง Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และนักลงทุนหันไปถือสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและเงินเยนมากขึ้น

         ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯ ยุโรป และจีน โดยในฝั่งสหรัฐฯ มีปัจจัยที่ต้องจับตาหลายด้าน ทั้งรายงาน PMI, ความคืบหน้าของร่าง Fiscal Bill และท่าทีของเจ้าหน้าที่เฟด ด้านยุโรป นักลงทุนจะจับตานโยบายการเงินของ ECB และ BOE ผ่านรายงานเศรษฐกิจสำคัญและคำแถลงของเจ้าหน้าที่ ส่วนในเอเชีย ต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจีน ญี่ปุ่น และการตัดสินใจของธนาคารกลางในประเทศหลัก รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยที่อาจถูกปรับลดลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางแรงกดดันจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ

        ในฝั่งไทย เศรษฐกิจไตรมาสแรกปี 2025 ยังพอได้แรงหนุนจากการส่งออกและการท่องเที่ยว แต่มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงครึ่งปีหลังจากผลกระทบนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินบาทยังเผชิญแรงผันผวนสองทาง (Two-Way Volatility) และอาจอ่อนค่าจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผล นักลงทุนควรใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลาย เช่น Options หรือ Forward โดยคาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 32.95–33.65 บาท/ดอลลาร์ และใน 24 ชั่วโมงข้างหน้าอยู่ที่ 33.10–33.40 บาท/ดอลลาร์